Lenovo ได้เปิดตัวเทคโนโลยีใหม่ของตน นั่นคือ Rapid Boot Extreme ที่จะช่วยให้การบู๊ตเร็วขึ้น โดยจะใช้เวลาในการบู๊ตเครื่องจนพร้อมใช้ Windows ภายในเวลาไม่เกิน 10 วินาทีเท่านั้น เร็วกว่า MacBook Air ซะอีกนะครับเนี่ย โดยเจ้าเทคโนโลยีนี้เป็นส่วนหนึ่งของ Lenovo?s Enhanced Experience (EE) 2.0 ครับ แน่นอนว่าเครื่องที่จะสามารถใช้ได้จะต้องมี EE นี้อยู่ด้วย (มีการปรับปรุง BIOS และ driver แล้ว) อย่างเช่น ThinkPad T420s เป็นต้น นอกจากนี้ยังต้องใช้ SSD และ Windows 7 อีกด้วย ถึงจะให้ผลได้อย่างเต็มที่
เครื่องที่ไม่ได้ใช้ SSD ก็สามารถใช้งานได้นะครับ แต่ประสิทธิภาพจะลดลงไป นั่นคือจะใช้เวลาในการบู๊ตราวๆ 20 วินาที ก็ยังเร็วกว่าเครื่องปกติอยู่ดีละนะครับ
แต่จะแรงทั้งที ก็ยังมีเงื่อนไขอยู่นะครับ มาอ่านกันไปทีละข้อเลยดีกว่า
- ไม่มีโลโก้ ThinkPad ตอนบู๊ตเครื่องขึ้นมาให้ดูครับ แต่ปุ่มต่างๆที่กดได้ขณะบู๊ต เช่น F1 นั้นยังสามารถใช้งานได้ตามปกติ
- ปุ่ม ThinkVantage ไม่สามารถใช้ได้ ถ้าจะ recovery ก็ให้กด F11 แทน
- อุปกรณ์ภายนอกที่เชื่อมต่อทาง USB เช่น keyboard แยก, เม้าส์ USB จะไม่สามารถเริ่มทำงานได้จนกว่า OS จะถูกบู๊ตขึ้นมา
- ไม่รองรับ WWAN
- การรักษาความปลอดภัยต่างๆ เช่น password ล็อก BIOS หรือก่อนเข้า Windows จะทำให้การบู๊ตช้าลง (ไม่เร็วเต็มที่ตามประสิทธิภาพของ Rapid Boot Extreme)
- บางอุปกรณ์จะไม่สามารถใช้งานได้จนกว่าหน้าจอ desktop จะแสดงขึ้นมา ได้แก่ ชุดปุ่ม Fn ทั้งหลาย, USB, LAN, WLAN และฟังก์ชันเสริมทางด้านเสียง (แต่ถ้ามีการตั้ง password ก่อนเข้า Windows ก็จะทำให้อุปกรณ์เหล่านี้สามารถทำงานได้ตามปกติครับ ไม่ต้องรอถึงหน้า desktop)
ขณะนี้มีรุ่นของ notebook ที่มีตัวเลือกให้ติดตั้งฟังก์ชันนี้ออกมา 2 รุ่น นั่นคือ ThinkPad T420s และ IdeaPad Y570 ครับ แต่ต้องรอถึงเดือนมิถุนายนนะครับ ถึงจะเริ่มวางขาย
ปิดท้ายด้วยคลิปแสดงความเร็วในการบู๊ตนะครับ มีมาเปรียบเทียบกับ MacBook Air ซะด้วยซิ
ที่มา : Notebookcheck, PCWorld, Lenovo