อีกหนึ่งเกมที่มีเอกลักษณ์ แต่เพราะบั๊กเลยตกม้าตาย!!
เครื่องที่แนะนำ:
| CPU | Intel Pentium IV 2.4 GHz or AMD 3500+ |
| RAM | 2 GB RAM |
| VGA Card | NVIDIA GeForce 8800 or ATI Radeon X1900 |
| HDD | 2 GB of free Hard Drive space |
| OS | Windows XP SP2, Vista SP2, Windows 7 |
ถ้ามองเผินๆ แล้วหลายคนอาจจะคิดว่า Magicka คืออีกหนึ่งเกมในตลาดที่โคลน Diablo ซีรีส์มาแบบไม่มีผิดเพี้ยน ต้องขอสารภาพตามตรงเลยว่าแม้แต่ผมเองก็ยังคิดเช่นนั้น แต่หลังจากได้ลองสัมผัสตัวเกมอย่างถึงพริกถึงขิงความคิดของผมก็เปลี่ยนไปทันที นี่ไม่ใช่เกมแนว Hack & Slash เหมือนกับเกมอื่นๆ ที่มีกลาดเกลื่อนในตลาด เกมนี้ไม่มี Skill Tree ไม่มีอาชีพให้เลือก ไม่มีการเก็บเลเวล ไม่มีการแต่งองค์ทรงเครื่องเรื่องชุดเกราะใดๆ และการใช้เวทมนตร์ก็ไม่ต้องใช้มานาอีกด้วย ฟังดูแล้วเหมือนเกมนี้จะขาดองค์ประกอบที่ช่วยสร้างสีสันไปซะหมด แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่เลย เพราะอะไร?… ผมมีคำตอบให้คุณ
ใน Magicka คุณจะได้รับบทเป็นนักเวทย์ตัวน้อยที่ต้องออกผจญภัยเพื่อไปปกป้องโลกจากพ่อมดมืดผู้ชั่วร้าย ฉากหลังของเกมนี้อ้างอิงมาจากตำนานของชาว Norse โดยมีการผสมผสานความเป็นแฟนตาซีเข้าไป จุดเด่นที่สุดของเกมนี้ก็คือ การผสมผสานเวทมนตร์ต่างๆ เข้าด้วยกันอย่างอิสระ ซึ่งผมเชื่อว่าเกมเมอร์หลายๆ คนคงจะไม่เคยเห็นระบบแบบนี้ที่ไหนมาก่อนแน่ (จะบอกว่ามันเป็นนวัฒตกรรมใหม่ของเกมแนวนี้เลยก็ว่าได้) กล่าวคือ คุณสามารถผสมผสานเวทมนตร์จากธาตุทั้ง 8 ที่เกมกำหนดมาให้ (ดิน น้ำ ไฟ สายฟ้า น้ำแข็ง ฮีล บาเรีย และอาเคน) เพื่อสร้างเป็นเวทมนตร์ที่มีเอกลักษณ์กว่า 20 แบบ
พลังที่ยิ่งใหญ่ก็มาพร้อมกับความรับผิดชอบที่ยิ่งใหญ่ด้วยเช่นกัน คุณต้องคำนึงถึงสภาวะรอบข้างด้วยเพราะเวทมนตร์ที่คุณร่ายในเกมนี้สามารถสร้างความเสียหายให้กับตัวคุณเองและเพื่อนร่วมทีมได้ถึงตายเลยทีเดียว เช่น หากคุณร่ายเวทย์สายฟ้าในขณะที่ตัวเปียกไปด้วยน้ำ คุณจะโดนไฟดูดจนตาย (เรื่องจริงที่ขำไม่ออก) ตรงจุดนี้อาจจะดูเป็นข้อจำกัดอยู่บ้าง แต่เพราะตัวเกมออกแบบให้คุณสามารถร่ายคาถาได้ตลอดเวลา การร่ายเวทมนตร์ด้วยความระมัดระวังก็เป็นเหตุผลที่ดีที่จะทำให้ผู้เล่นต้องใช้แทคติกในการสู้รบเพิ่มขึ้น และมันก็ทำให้เกิดกลยุทธ์ในการร่ายคาถาร่วมกับผู้เล่นคนอื่นๆ ด้วย (เกมนี้รองรับผู้เล่นสูงสุดในโหมด Co-op 4 คน) นอกจากนี้เวทมนตร์แต่ละชนิดยังส่งผลต่อสภาพแวดล้อมภายในเกมและการแก้ปริศนาต่างๆ ด้วยเช่นกัน อาทิ คุณสามารถเสกแม่น้ำที่ขวางอยู่ให้กลายเป็นน้ำแข็งแล้วเดินข้ามไป หรือใช้พลังของสายน้ำดับไฟที่ขวางอยู่ในเส้นทาง เป็นต้น
คุณอาจจะต้องใช้เวลาทำความคุ้นเคยกับการควบคุมพลังเวทมนตร์อยู่สักเล็กน้อย เพราะตัวเกมเน้นให้ผู้เล่นใช้การผสมผสานเวทมนตร์จากธาตุต่างๆ ทั้ง 8 ชนิดเข้าด้วยกัน ปุ่มควบคุมที่ใช้ในเกมจึงค่อนข้างเยอะพอสมควร คุณสามารถเลือกเวทมนตร์ธาตุต่างๆ ได้โดยการกดที่ปุ่ม Q-R และ A-F บนคีย์บอร์ด และสามารถกดใช้เวทย์ได้ 4 รูปแบบคือ ร่ายเข้าตัวเองเพื่อสร้างเกราะป้องกันหรือรักษาอาการต่างๆ, ร่ายใส่ศัตรูซึ่งเป็นการใช้เวทมนตร์แบบปกติ, ร่ายเพิ่มพลังธาตุให้กับอาวุธที่ถืออยู่ เช่น ดาบพลังน้ำแข็งที่สามารถแช่แข็งศัตรูได้ และสุดท้ายร่ายออกมาเป็นรัศมีวงกว้างรอบตัวเพื่อสร้างความเสียหายแก่ศัตรูที่อยู่โดยรอบ เอาแค่ 4 แบบที่กล่าวมานี้ ปุ่มควบคุมที่คุณต้องใช้ก็ปาเข้า 6 ปุ่มแล้ว (ไม่รวมปุ่มเลือกชนิดเวทมนตร์ที่ได้กล่าวไปนะครับ)
