พลิกเครื่องกันมาดูด้านล่างกันบ้าง เมื่อดูแล้วก็จะเห็นว่ามีแผ่นพลาสติกยาวใหญ่แผ่นเดียวที่รอบคลุมพื้นที่ด้านล่างส่วนใหญ่อยู่
ตัวแบตเตอรี่มีลักษณะยาวๆ ขนาดไม่ใหญ่มาก
สเปกของแบตคือ 11.1V DC — 4,400 mAh, 49Wh Lithium-Ion 6-cell ครับ
serial number ของเครื่องจะซ่อนอยู่ใต้แบตเตอรี่ครับ
สติ๊กเกอร์รับรองชิ้นส่วนทั้งหลายจะมาอยู่ในบริเวณเดียวกันทั้งหมด รวมไปถึงสติ๊กเกอร์ของ Windows 7 Professional OEM ที่ติดมาด้วยกัน
ช่องที่ดูลักษณะเป็นครีบๆนี้คือลำโพงครับ ซึ่งจะเป็นการปล่อยให้เสียงสะท้อนกับพื้นด้านล่าง เพื่อให้ได้มิติของเสียงเพิ่มขึ้น
ลำโพงของอีกด้านหนึ่งครับ ลักษณะเดียวกันเลย
ช่องนี้คือช่องของพัดลมที่ดูดอากาศเข้าไปเป่า heatsink และ heatpipe ในตัวเครื่องนั่นเอง ดูแล้วเล็กมากๆเลย แถมเจาะมาอีกครึ่งเดียวอีกด้วย ดูแล้วไม่น่าจะพอที่จะระบายความร้อนได้แน่ๆ ถ้ามีการโหลดหนักๆ
ได้เวลาเปิดฝาหลังออกมาละ ที่ต้องทำคือการขันน็อตออก 5 ตัวด้วยกัน แต่หนึ่งในนั้นจะมีสติ๊กเกอร์รับประกันติดทับอยู่ด้วย ซึ่งอาจทำให้ไม่สามารถแกะเครื่องได้ในระหว่างประกัน การดีไซน์ให้มี heatpipe แยกระหว่าง CPU และ GPU ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีครับ แต่ว่าสุดท้ายมันก็ไปรวมกันออกที่ช่องเดียว พัดลมตัวเดียว ทำให้ดูแปลกไปเลย และไม่รู้ว่ามันจะระบายความร้อนให้ได้ทันหรือไม่ เดี๋ยวเราค่อยไปดูกันครับ
มาดูกันที่ CPU กันก่อนเลย ภายใต้ heatpipe อันนี้ละครับ มี i7-2630QM อยู่ ตัว sink ที่แปะอยู่กับ CPU ก็สัมผัสแค่เฉพาะตัว die เท่านั้นไม่ได้ครอบไปทั้งตัว
ใต้ sink อันนี้ก็มี GPU อย่าง NVIDIA GT 540M อยู่เช่นกัน ตัว heatpipe นั้นก็มีขนาดเล็กและสั้นกว่าของ CPU พอสมควรทีเดียว
นี่ละครับ หน้าตาของพัดลมเพียงตัวเดียวที่จะนำพาความร้อนจากทั้ง CPU และ GPU ออกไปสู่เบื้องนอก ตัวพัดลมเองผมว่ามีขนาดเล็กไปหน่อย ถ้าต้องมารับมือกับความร้อนที่ถูกส่งมาจาก heatpipe ทั้งสองแบบนี้น่ะ
แรมที่ติดตั้งมาเพียงแผงเดียวกับตัวเครื่องเป็น DDR3-1333 ขนาด 4GB จาก elixir จำนวนเม็ดแรม 16 เม็ดด้วยกัน และยังมีสล็อตเหลือให้อีก 1 ช่องด้วยครับ
ถึงตา HDD กันบ้าง ตัว HDD เป็นของ Western Digital ที่ความเร็ว 7200 รอบต่อนาทีครับ แต่ตำแหน่งที่วางนั้นไม่ค่อยดีเท่าไรเลย เนื่องจากอยู่ติดกับ heatpipe ทำให้จุดนี้มีความร้อนสะสมที่สูงในระหว่างการใช้งาน
ต่อไปเราจะมาดูผลเทสกันบ้างละนะครับ ไปดูกันดีกว่า —>