บานพับจอของรุ่นนี้มีลักษณะที่ค่อนข้างเล็ก แต่ก็สามารถใช้งานได้ดี ไม่มีอาการก๊อกแก๊กให้เห็นครับ
ด้านล่าง จะพบว่าฝาหลังนั้นเป็นแบบแผ่นเดียว ซึ่งถ้าจะถอดออกก็ต้องขันน็อตออกหมดทุกตัวเลยทีเดียว ส่วนช่องระบายอากาศก็จะมีเฉพาะด้านซ้ายของเครื่องซึ่งเป็นตำแหน่งของเหล่า CPU, GPU นั่นเอง
แบตเตอรี่เป็นแบบ Li-Ion ขนาด 4400 mAh เหมือนรุ่นอื่นๆทั่วไปครับ
ดูช่องระบายอากาศกันชัดๆครับ ข้างในจะมีครีบระบายความร้อนอยู่
ลองจับชั่งน้ำหนัก ก็พบว่าหนักประมาณ 2.2 Kg. จริงตามในสเปก
และเมื่อรวม adapter แล้ว น้ำหนักรวมเพิ่มเป็นประมาณ 2.7 Kg. ครับ
นี่ครับหน้าตาของ adapter ขนาดก็เท่าๆกับ adapter จ่ายไฟขนาด 90 วัตต์ทั่วๆไปครับ
ต่อไปเราไปดูด้านในกันบ้างดีกว่าครับ
ดูที่สติ๊กเกอร์บอกสเปกกันก่อนเลยครับ เป็นแบบแผ่นเดียว ติดมาแน่นดีครับ ไม่น่าจะหลุดง่ายเมื่อมีการใช้งานเครื่อง
เดี๋ยวเราจะมาทดสอบกันครับ ว่าจะแรงขนาดไหนกับ AMD Ultimate Vision ตัวนี้ ส่วนรูทางด้านล่างนั้นเป็นรูของไมค์ในตัวเครื่องครับ ความไวในการรับเสียงอยู่ในเกณฑ์ดี ถัดมาทางขวาก็เป็นช่อง SD Card ครับ
ในส่วนของ touchpad นั้น พื้นผิวมีลักษณะด้าน โดยในรุ่นนี้สามารถใช้งานฟังก์ชัน pinch to zoom แบบใน iPhone ได้อีกด้วย ตัวปุ่มคลิกเป็นแบบ 2 ปุ่ม ซ้ายขวา ถัดมาด้านล่างก็เป็นไฟแสดงสถานะการทำงานในส่วนต่างๆของเครื่องครับ
keyboard เป็นแบบ chiclet ตามสมัยนิยมนะครับ ระยะห่างระหว่างปุ่มประมาณ 3 mm การกดปุ่มลงไปตองใช้แรงซักนิดนึงนะครับ เพราะตัวกลไกด้านล่างค่อนข้างแข็ง แต่ถ้าใช้ไปนานๆก็น่าจะนิ่มลงครับ
ตัวปุ่มกดก็ไม่ได้ฝังลงไปในแผงด้านล่างซะทีเดียวนะครับ คาดว่าเพื่อจะได้ทำการถอดออกมาได้ง่าย
สำหรับปุ่มเปิดเครื่องก็ไม่มีอะไรพิเศษครับ ด้านข้างนั่นก็เป็นไฟแสดงว่ากำลังเปิดเครื่องอยู่
ลำโพงของเครื่องนี้ก็ซ่อนอยู่ใต้แผงตะแกรงสีดำครับ โดยมีลำโพงอยู่แค่ตัวเดียวเท่านั้นทางฝั่งขวา ทำให้ระบบเสียงที่ได้จากลำโพงของเครื่องเป็นแบบ Mono ครับ
ด้านบนของจอก็จะเป็น webcam ครับ
เอาละครับเสร็จสิ้นในส่วนของ hardware แล้ว ต่อไปก็จะเป็นทางด้าน software และ benchmark ต่างๆ เปิดไปดูหน้าต่อไปได้เลยครับ