จนถึงขณะนี้ก็ได้มีกราฟิกชิปในตระกูล HD 6000M ออกมาในตลาดบ้างแล้วพอสมควรนะครับ ซึ่งการกลับมาในครั้งนี้ ทาง AMD ก็ได้เพิ่มเทคโนโลยีใหม่ๆเข้าไปในตัวชิปมากขึ้น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ เพิ่มประสบการณ์การใช้งานใหม่ๆให้กับผู้ใช้งานอย่างมากมาย และในบทความนี้ ผมก็จะพาเพื่อนๆไปรู้จักกับเทคโนโลยีที่น่าจับตามองของ HD 6000M กันครับ
AMD HD3D Technology
เริ่มกันที่ HD3D กันก่อนเลยนะครับ ซึ่งความจริงแล้วเทคโนโลยีนี้ก็มีมาตั้งแต่สมัย HD 5000M แล้ว แต่ก็ยังไม่สามารถทำงานได้เต็มความสามารถครับ โดยยังไม่สามารถเล่น Blu-ray 3D ได้ ดังในตารางด้านล่างนี้ครับ ซึ่งแสดงถึงรุ่นของกราฟิกชิปและฟังก์ชันที่สามารถใช้งานได้
จะเห็นได้ว่าใน AMD HD 6000M นั้นสามารถใช้งานได้ทุกฟังก์ชันของ AMD HD3D เลยทีเดียว ซึ่งได้แบ่งฟังก์ชันออกเป็น 4 อย่างดังนี้ครับ
- Gaming โดยหลักก็จะะเป็นการเล่นเกมโดยมีการแสดงผลเป็นภาพ 3 มิติขึ้นมานั่นเอง ซึ่งในปัจจุบันก็มีเกมที่รองรับการแสดงผลแบบ 3 มิติอยู่หลากหลายพอสมควร ดังนี้ครับ
- Call of Duty 4 – Modern Warfare Series
- Left 4 Dead 2
- Resident Evil 5
- World of Warcraft
- Dragon Age Origins และเกมอื่นๆอีกมากมายครับ ล้วนแล้วแต่เป็นเกมดังๆทั้งนั้นเลยทีเดียว
- Blu-ray 3D ก็คือการรับชมภาพยนตร์จาก Blu-ray ในรูปแบบ 3 มิตินั่นเองครับ ซึ่งการจะรับชมได้ก็จะต้องมีองค์ประกอบต่างๆดังนี้
- notebook ที่มี Blu-ray 3D drive และมีแว่นแบบ Active Shutter เพื่อใช้ในการรับชม
- กราฟิกชิปในรุ่น HD 6000M ขึ้นไป
- software ที่สามารถเล่นภาพยนตร์ Blu-ray ได้
- และที่แน่นอนครับ นั่นคือภาพยนตร์แบบ Blu-ray 3D ซึ่งที่เราเห็นกันชัดเจนก็อย่างเช่นเรื่อง Avatar นั่นเอง
- 2D to 3D Conversion ก็คือการรับชมภาพยนตร์ที่มาเป็นแบบ 2D ในรูปแบบ 3D นั่นเองครับ ซึ่งอุปกรณ์ที่ใช้ก็เหมือนกับการรับชม Blu-ray 3D ต่างกันก็เพียงแค่ตัวของภาพยนตร์ที่นำมาชมเท่านั้นเอง เพราะขอเพียงแค่เป็นภาพยนตร์ที่มีรูปแบบ 3D อยู่ด้วยเท่านั้น
- Photo ก็คือการรับชมภาพในเครื่องในรูปแบบ 3D ซึ่งอุปกรณ์ที่ใช้ก็เหมือนๆกันนั่นละครับ
ซึ่งรายชื่อของอุปกรณ์ที่สนับสนุนเทคโนโลยีนี้ก็สามารถเข้าไปดูได้ในหน้านี้ครับ
ปิดท้าย HD3D ด้วยคลิปโฆษณาของทาง XFX นิดนึงนะครับ ซึ่งเป็นการจำลองออกแนว over นิดๆของ HD3D นี้ครับ รับชมกันจากคลิปด้านล่างได้เลย
AMD EyeSpeed Technology
ตัวต่อไปที่ผมหยิบยกมาพูดถึงก็จะเป็น AMD EyeSpeed ครับซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ช่วยให้การทำงาน การรับชมภาพยนตร์ของเราสะดวก รวดเร็วและสวยงามมากขึ้นกว่าเก่า โดยมี 4 ฟังก์ชันการทำงานดังนี้ครับ
- ทำให้สามารถรับชมวิดีโอคลิปที่ streaming มาจาก Internet ได้อย่างชัดเจนและสวยงามมากขึ้น ซึ่งในปัจจุบัน Adobe Flash Player 10.1 ก็รองรับ EyeSpeed แล้วนะครับ
- ช่วยให้คุณสามารถรับชมภาพยนตร์เรื่องโปรดในรูปแบบ high definition ได้อย่างไหลลื่น เหมาะกับเอาไปใช้ดู mv 1080p ของเหล่าสาวๆ K-Pop เป็นอย่างยิ่งเลยนะเนี่ย ^ ^
- สามารถทำงานไปพร้อมๆกันหลาย application ได้อย่างสบายๆ ด้วยความรวดเร็วในการใช้งานที่เหนือกว่าเก่า ซึ่งจะเหมาะกับการทำงานแบบ multitasking เป็นอย่างยิ่งครับผม คราวนี้จะได้สลับหน้าจอได้คล่องๆขึ้นได้อีก ^^
- ทำให้เล่นเกมได้อย่างสมจริงมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นภาพที่สวยสมจริง การตอบสนองที่รวดเร็วทันใจและถูกต้องตามหลักฟิสิกส์, ระบบ AI ที่ชาญฉลาดยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับเทคโนโลยีกราฟิกอื่นๆด้วย เช่น Tessellation และ Global Illumination
GDDR5 Memory
อีกตัวนึงก็คือการนำหน่วยความจำแบบ GDDR5 เข้ามาใช้ใน HD 6000M เป็นครั้งแรกครับ ซึ่งจะช่วยให้ประสิทธิภาพในการแสดงผลเพิ่มขึ้นถึง 20% โดยให้ประสิทธิภาพที่สูงกว่า DDR3 ที่ใช้กันทั่วไปถึง 2 เท่า ในขณะที่การใช้พลังงานลดลงกว่าเดิมอีกด้วย
ปิดท้ายด้วยกราฟแสดงผลการเปรียบเทียบระหว่างกราฟิกชิปที่ใช้ DDR3 กับ GDDR5 นะครับ
เห็นได้ว่าสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเลยทีเดียวนะนี่
สุดท้ายเราก็ต้องมาคอยดูกันละครับว่าในสงครามหนนี้ ทั้ง 2 ค่ายจะชนกันได้อย่างสมน้ำสมเนื้อขนาดไหน และค่ายสีฟ้าจะเข้ามาเป็นม้ามืดได้หรือไม่กับ platform ใหม่ เรามาคอยดูไปพร้อมๆกันครับ สวัสดีครับ