สำหรับมุมกางของ MSI FX400 ยามเปิดฝานั้นจะอยู่ที่ประมาณ 135 องศา ซึ่งก็เพียงพอต่อการใช้งานแล้วละครับ
แกนบานพับนั้นเป็นลักษณะตัว L คล้ายๆมีความคงทนแข็งแรงมากกว่าแกนบานพับแบบเดิม โดยตัวแกนบานพับจะอยู่บริเวณขอบของทั้งสองด้าน
และเมื่อเปิดดูด้านใน จะพบว่า MSI ในรุ่น FX400 นี้เลือกใช้ Keyboard แบบ Chiclet ตัวปุ่มกดค่อนข้างนิ่มใช้ได้เลยทีเดียว ซึ่ง Keyboard ที่ให้มานั้นมีขนาด Full-Size ไม่มี Numpad มาให้ (แต่ก็สามารถใช้งานได้ด้วยการกดปุ่ม Fn)
เหนือ Keyboard ขึ้นไปจะเป็นที่อยู่ของปุ่มต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นปุ่มสำหรับเปิด-ปิดเครื่อง, Wireless, Cinema Mode, เพิ่ม-ลด เสียงเป็นต้น
ส่วนบริเวณด้านข้าง Switch Panel ทั้ง 2 ด้านจะเป็นที่อยู่ของลำโพงแบบ Stereo 2.0 ประสิทธิภาพของเสียงในรุ่นได้รับการการันตีด้วยเครื่องหมาย THX TruStudio Pro เท่าที่ทดลองฟังก็พบว่ารายละเอียดการแยกแยะเสียงนั้นอยู่ในเกณฑ์ปานกลาง แต่ตำแหน่งของเสียงการแยกซ้ายขวานี่สิ เทียบชั้นลำโพงหรูๆบน Notebook หลายๆยี่ห้อได้เลย
ถัดมาในส่วนของด้านล่าง Keyboard จะเป็นที่อยู่ของ Touchpad ที่มาพร้อมกับปุ่มเปิดปิดที่อยู่ใกล้ๆกัน โดยลักษณะของ Touchpad ในรุ่นนี้จะบุ๋มลงไปกว่าพื้นผิวโดยรอบเล็กน้อย ตัวปุ่มกดซ้ายขวาเองยังสามารถกดได้อย่างสบายอีกด้วย
สิ่งหนึ่งที่ผมชอบ MSI รุ่นนี้คือลักษณะการออกแบบ โดยเฉพาะบริเวณจอที่มีลักษณะโค้งมน ดูหรูหราน่าใช้งาน บริเวณขอบจอนั้นเลือกใช้วัสดุแบบพลาสติกมันเงา อาจจะทำให้เป็นรอยง่ายอยู่ซักหน่อยแต่ก็ทำให่ภาพลักษณ์ของมันดูหรูหราขึ้นไปอีกระดับ ด้วยหน้าจอขนาด 14 นิ้ว รองรับ Resolution สูงสุดที่ 1366×768 พิกเซล ทำให้เพียงพอต่อการใช้งานโดยทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นดูหนังฟังเพลงหรือทำงานเอกสาร นอกจากนั้นนั้นยังมีกล้อง Webcam แบบ Build-in มาให้เหมือนกับ Notebook ทั่วๆไป