ระบบกราฟิกใน Bioshock 2 นั้นไม่แตกต่างจากภาคแรกเท่าใดนัก (ถึงแม้ว่าจะมีการใช้ Feature จาก Unreal Engine 3 ก็ตามทีเถอะ) แต่กระนั้นก็ยังมีหลายๆจุดที่ได้รับการปรับปรุงและพัฒนาในดีกว่าเดิม อาทิ น้ำและเอ็ฟเฟ็คที่ดูดีขึ้นมาเล็กน้อย แต่โดยรวมก็ถือว่าไม่แตกต่าง แต่ทาง 2K เองก็ยังรักษามาตรฐานของความเป็น Bioshock ได้เป็นอย่างดี
ส่วนเรื่องของระบบ AI ในภาคนี้เองก็ยังคงรักษามาตรฐานเดิมไว้ได้ดี AI สามารถตอบโต้ต่อ Object ต่างๆภายในเกมได้ อาทิ Splicer บางตัวที่พยายามจะ Hack ร้านขายของ รวมถึงการตอบสนองต่อผู้เล่นหรือ Little Sister ที่ผู้เล่นปล่อยยามเก็บ ADAM เองก็ดี , AI ที่เดินอย่างอิสระไม่ตายตัวเองก็ดี ทำให้เกมนี้ระบบ AI ยังคงเป็นอีกหนึ่งจุดที่ทำให้ตัวเกมดูมีความน่าสนใจไม่น่าเบื่อจำเจ เหมือนกับเกมบางเกมที่เอาแต่เกิดตายตัว
ระบบเสียงภายในเกม Bioshock 2 นั้นก็ยังเป็นแนวเดิมคือประมาณช่วงยุค 40 ถึงยุค 60 , เสียงเอ็ฟเฟ็ตจากการต่อสู้ , BGM ที่ชวนหดหู่และน่าเศร้า รวมถึงเสียงพูดของ Splicer ยังสามารถทำให้ผู้เล่นตื่นตาตื่นใจได้อยู่ไม่น้อย ถึงแม้ว่า Concept โดยรวมยังสามารถรักษาไว้ได้ในแบบของ Bioshock แต่ก็ยังบางจุดที่ได้รับการเพิ่มเสริมเติมแต่งเข้ามา อาทิ ฉากที่ Big Sister จะปรากฏตัวที่ใช้ดนตรีแนวเร้าใจ ชวนผวา สิ่งที่เหล่านี้ทำให้เกม Bioshock 2 นั้นดูออกแนวบู้ล้างผลาญมากกว่าภาคแรกๆ แต่กลับกันผมมองว่าในภาคนี้ความหลอนที่ได้จากเสียงและสิ่งแวดล้อมรอบตัวดูจะลดลงไปค่อนข้างมากเหมือนกัน
ถึงแม้ว่าระบบกราฟิก , AI และเสียงนั้นจะไม่ได้รับการพัฒนาปรับปรุงให้ดีกว่าภาคแรกมากนัก แต่ก็ยังสามารถรักษาความเป็น Bioshock ไว้ได้ดี แต่ถ้ามองที่ Gameplay แล้วละก็ สิ่งนี้เป็นสิ่งที่ได้รับการปรับปรุงค่อนข้างมาก ไม่ว่าจะเป็น อาวุธใหม่ๆ , Plasmid ใหม่ รวมถึงศัตรูหน้าใหม่ อย่าง Big Sister ทำให้เกม Bioshock ในภาคที่ 2 นี้มีการเล่นที่ง่ายดายและรวดเร็วมากกว่าภาคแรกอยู่พอสมควร แต่สิ่งหนึ่งที่ 2K น่าจะทำให้ดีกว่านี้หน่อยคือในส่วนของเนื้อเรื่องในโหมด Singleplayer ที่ดูจะสั้นไปหน่อย (เล่นๆอยู่ อ้าว !! จบซะแล้ว)? แต่ภาพรวมก็ถือว่าในภาคนี้สนุกไม่น้อยเลยครับ
Bioshock 2 เป็นอีกหนึ่งเกม Action-FPS ที่ผสานความเป็น Horror และกลิ่นอายเล็กน้อยของ RPG ได้อย่างลงตัว เป็นอีกหนึ่งเกมที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวอย่างเห็นได้ชัด
Gameplay & AI : ระบบ Gameplay ของ Bioshock 2 นั้นได้รับการพัฒนาปรับปรุงในระดับหนึ่ง ระบบการดำเนินเนื้อเรื่องรวมถึงวิธีการเล่นค่อนข้างแตกต่างจากภาคแรกอยู่เล็กน้อย อาทิ การที่ผู้เล่นสามารถใช้ทั้งอาวุธและ Plasmid ได้พร้อมกัน , ไอเท็มใหม่ๆอย่าง Hack Tool (ถึงแม้เนื้อเรื่องจะเป็นเส้นตรงไปหน่อยก็ตามที) ความท้าทายในภาคนี้ดูจะเพิ่มมากขึ้นจากศัตรูหน้าใหม่ แต่ถ้ามองมุมกลับกันมันทำให้ความน่ากลัวและหลอนลดลงไปในระดับหนึ่งจากระบบการเล่นที่ง่ายและสะดวกมากกว่าเดิม ฉากและแผนที่เปิดกว้างอย่างอิสระ , วัตถุที่สามารถตอบสนองกับผู้เล่นได้ค่อนข้างมาก ระบบ AI เองก็ยังสามารถรักษามาตรฐานไว้ได้เป็นอย่างดี โดยรวมแล้ว Gameplay นี่แหละที่เป็นจุดขายของ Bioshock ในภาคนี้ Score : 9/10
Graphic : ในภาคนี้เรื่องของกราฟิกเองก็ได้รับการปรับปรุงบ้างเล็กน้อย ไม่ถึงกับเห็นได้ชัดมากนัก แต่โดยทั่วไปสภาพแวดล้อม , Model , Texture รวมถึงแสงเงา ก็ยังสามารถทำให้ผู้เล่นคล้อยตามและสนุกสนานได้อย่างแน่นอน แต่สิ่งหนึ่งที่ 2K ควรจะปรับปรุงหากมีภาค 3 ออกมา คือ ระบบกราฟิกและการเคลื่อนไหวในโหมด Multiplayer ที่ดูแล้วขัดใจมากๆ ไม่ว่าจะเป็นการเคลื่อนไหวของตัวละครที่ดูลอยๆ , กราฟิกที่เหมือนถูก Downgrade ลงมาจากโหมด Singpleplayer Score : 8/10
Sound : ระบบเสียงของเกมนี้ยังสามารถดึงอารมณ์ของผู้เล่นให้ร่วมไปกับตัวเกมได้เป็นอย่างดี ยังสามารถรักษารูปแบบของแนวดนตรีต่างๆไว้ได้อย่างเหนียวแน่น ถ้าหากมองถึงเสียงเอ็ฟเฟ็คต่างๆแล้ว 2K ก็ยังสามารถทำออกมาได้ดีไม่มีข้อกังขา จะติดก็ตรงเสียงบางจุดและ BGM บางฉากที่ดูจะทำให้ตัวเกมมีความหลอนและน่ากลัวลดลงบ้างเล็กน้อย แต่โดยรวมแล้วเสียงก็เป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบที่สร้างเอกลักษณ์ให้กับเกม Bioshock นี้ได้เป็นอย่างดี Score : 9/10
?
