เนื้อเรื่องในภาค 2 เกิดขึ้นในปี 1958 เป็นเนื้อเรื่องที่เกี่ยวข้องกับ Eleanor หรือ Little Sister ตัวต้นแบบที่ถูกจับมาทดลองและให้ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับ Big Daddy ( Subject Delta )? ภายหลัง Dr.Sofia Lamb ได้ตามหาตัว Eleanor จนพบและเธอได้ออกคำสั่งให้ Big Daddy (Subject Delta) ที่อยู่กับ Eleanor ปลิดชีพตนเอง เหตุการณ์ครั้งนั้นได้สร้างความเศร้าโศกเสียใจให้กับ Eleanor เป็นอย่างมาก
หลังจากเหตุการณ์ครั้งนั้นเวลาได้ล่วงเลยผ่านมาถึง 10 ปี Big Daddy (Subject Delta) ก็ได้ตื่นขึ้นมาอีกครั้ง สิ่งแรกที่ทำคือออกมาหา Eleanor เธอยังอยู่หรือไม่ ? , จะเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นบ้าง คุณเท่านั้นที่เป็นผู้ไขความลับนี้
- Operating System : Microsoft Windows XP (SP2 or later) / Windows Vista / Windows 7
- Processor : AMD Athlon 64 (3800+ 2.4GHz) , Intel Pentium 4 (530 3.0 GHz)RAM : 2 GB
- Video Card : NVIDIA 7800GT with 256 MB RAM or better , ATI Radeon X1900 with 256 MB RAM or better
- Hard Disc Space : 11 GB
- Sound Card : 100% DirectX 9.0c compliant card
Bioshock ภาค 2 นี้ใช้ Unreal Engine 2.5 พัฒนาเหมือนกันกับภาคแรก ถึงแม้ว่าอาจจะมีการนำ Feature ของ Unreal Engine 3.0 บางตัวเข้ามาช่วยเสริม แต่นั่นก็ไม่ได้ทำกราฟิกให้ตัวเกมในภาคนี้มีความแตกต่างไปจากเดิมมากนัก
เกม Bioshock 2 นั้นไม่ใช่ภาคต่อของ Bioshock ภาคแรกเพราะในภาคแรกนั้นตัวเกมได้จบแบบสมบูรณ์ไปเรียบร้อยแล้ว ในภาคนี้ 2 ผู้เล่นจะได้รับบทบาทเป็น Big Daddy ตัวต้นแบบ ( Subject Delta ) ที่ออกตามหา Little Sister ( Eleanor )
Bioshock เป็นเกมแนว FPS Horror ผสมผสานกับเป็น RPG? ในภาคนี้ได้รับการปรับปรุงในหลายๆจุด จุดแรกที่เห็นความแตกต่างได้ชัดคือ การที่เราได้รับบทเป็น Big Daddy และสามารถใช้ Plasmid พร้อมกับอาวุธไปพร้อมกันได้เลย โดยไม่ต้องเลือกใช้แบบภาคแรก ทำให้ระบบการเล่นในภาคนี้มีความรวดเร็ว ดุเดือน เลือดพล่านมากกว่าภาคแรก ไม่ว่าจะเป็นการใช้ Plasmid ทำ Combo ควบคู่ไปกับอาวุธที่ใช้อยู่ หรือจะบุกตะลุยด้วยสว่านคู่ใจก็ยังได้ ร้านค้าต่างๆ รวมถึงกระสุนและรูปแบบการเล่นก็ยังคงไว้ในแบบของ Bioshock ได้เป็นอย่างดี
นอกจากนั้นระบบการ Hack เองก็ได้รับการปรับปรุงด้วย จากภาคแรกที่ใช้การต่อท่อนั้น ภาคนี้จะใช้เกจในการคลิกเพื่อ Hack แทน ทำให้ระบบการเล่นโดยรวมมีความลื่นไหลและรวดเร็วกว่าภาคแรกค่อนข้างมาก อีกทั้งยังมีอาวุธชนิดใหม่ๆ อาทิ Hack Tool ที่ทำให้สามารถ Hack จากระยะไกลได้ , Plasmid เองก็เช่นกันในภาค 2 นี้ได้เพิ่ม Plasmid ใหม่ที่น่าสนใจเข้าไป อาทิ Scout ที่สร้างร่างเสมือนวิญญาณเพื่อสำรวจเส้นทางที่ต้องการจะไปเป็นต้น ทำให้ระบบไอเท็มในภาคใหม่นี้มีให้เลือกใช้กันหลากหลาย สามารถประยุกต์ใช้ในแบบที่ผู้เล่นถนัดได้ เรียกว่าจัดกันไปตามสะดวกจะบู้ระยะไกลหรือใกล้ก็มันส์ไม่แพ้กัน
ระบบการเล่นในภาคนี้ยังค่อนข้างเปิดกว้างให้ผู้เล่นได้ออกสำรวจเมืองและโลกใต้ทะเล? และยังคงต้องเก็บ ADAM เพื่อนำมาแลกหรืออัพเกรด Plasmid นอกจากการให้ Little Sister ตามหา ADAM แล้ว การเก็บ ADAM จากปลิงทะเลที่ถูกนำมาทดลองก็ช่วยได้เหมือนกันนะจ๊ะ นอกจากนั้น ADAM ยังหาได้จากหลากหลายที่ อาทิ การช่วยเหลือ Little Sister ก็ดี , กำจัด Big Siser ก๊ดี ทำให้การเก็บ ADAM ในภาคนี้สามารถทำได้ค่อนข้างง่ายกว่าภาคแรก (แต่การสู้กับ Big Sister ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายซักเท่าไหร่)
ความน่าตื่นเต้นในภาคนี้ยังอยู่ในศัตรูหน้าใหม่อย่าง Big Sister รวมทั้งศัตรูตัวอื่นๆ ถ้าหากคิดว่าเจ้า Big Daddy ในภาคก่อนโหดแล้วขอบอกเลยว่าเจ้า Big Sister พี่สาวสุดโหดตัวนี้เจ๋งกว่ามาก เพราะเจ้าหล่อนสามารถใช้ทั้ง Plasmid และอาวุธควบคู่กันได้อย่างลงตัว ผนวกกับความไวของ Big Sister ทำให้กลายเป็นศัตรูตัวฉกาจที่ประมาทไม่ได้เลยทีเดียว และนอกจาก Big Sister แล้ว Brute Splicer ที่พัฒนามาจาก Splicer หลังจากการใช้ ADAM ก็โหดไม่แพ้กัน ทำให้ Bioshock ในภาคนี้มีความท้าทายและน่าสนใจมากกว่าเดิม ซึ่งแตกต่างจากภาคแรกที่บรรยากาศจะชวนขนหัวลุกมากกว่า แต่ภาค 2 นี้เรียกว่าบู้แหลก ฆ่า ฟันกันจนเสน่ห์ของความน่ากลัวลดลงไปพอสมควร ใครที่หวังว่าภาคนี้จะน่ากลัวหรือหลอนกว่าเดิมอาจจะต้องผิดหวังไปตามๆกัน
โฉมหน้าของ Brute Splicer ที่สามารถใช้ Plasmid ได้
โหมด Multiplayer เป็นอีกหนึ่งฟีเจอร์ที่ถูกเพิ่มเข้ามาใน Bioshock ภาค 2 นี้ โดยโหมดนี้จะแยกอิสระออกจากตัว Single Player อย่างชัดเจน โดยแบ่งออกเป็น 7 โหมดให้ผู้เล่นเลือกได้แก่ Survival of the fittest , Civil War ,? Last Splicer Standing , Turf War, Capture the Sister, ADAM grab และ Team ADAM Grab สิ่งแรกที่เห็นได้ชัดถึงความแตกต่างระหว่างระบบ Multiplayer กับ Singleplayer คือระบบกราฟิกที่ดูแย่ลงอย่างเห็นได้ชัด ไม่ว่าจะเป็นแสงเงา หรือ Texture เองก็ตาม ทำให้ผู้เล่นที่ยึดติดกับกราฟิกที่เคยได้พบเจอจากโหมด Singleplayer อาจดูขัดหูขัดตาไปบ้าง แต่ถ้าหากลองเปิดใจและทดลองเล่นดูแล้วละก็ บอกได้เลยครับว่าโหมด Multiplayer นั้นมีความสนุกในตัวมันเองอยู่มาก ไม่ว่าจะเป็นความท้าทายจากระบบ Rank ที่มีผลต่ออาวุธและ Plasmid หรือจะเป็นชุด Big Daddy ที่ต้องมาใส่กันเอาเองหรือได้จากการสุ่มของเกมให้เป็น Big Daddy แต่ถ้ามองกลับกันจุดบอดของโหมด Multiplayer นี้คือผู้เล่นค่อนข้างน้อย เข้าไปทีกว่าจะได้เล่นนี่รอกันเหงือกแห้งเลยทีเดียว แต่โดยรวมก็ถือว่าโหมด Multiplayer นี้ช่วยทำให้สามารถเพลิดเพลินกับเกมได้ไปอีกระยะหนึ่ง
โหมด Capture the Sister ของการเล่นแบบ Multiplayer
เนื้อเรื่องของการเล่นแบบ Multiplayer นั้นจะเป็นตอนที่เกิดสงครามกลางเมือง ซึ่งเกิดจากการแตกแยกทางความคิด ฝ่ายหนึ่งที่สนับสนุนความคิดของ Andrew Ryan และอีกฝ่ายที่สนับสนุนความคิดของ Atlas โดยพลเมืองนั้นสามารถใช้ได้ทั้งอาวุธและ Plasmid มาสู้รบกัน โดยทีมงานได้เอาจุดนี้มาทำให้เกิดเป็นโหมด Multiplayer ของเกม Bioshock 2
