Call of Juarez: Bound in Blood เป็นเกมแอคชั่นสไตล์ตะวันตกคาวบอยว่าด้วยเรื่อง 2 พี่น้อง Ray และ Thomas McCall ได้เข้าไปรบในสงครามกลางเมืองในอเมริกัน พวกเขาจะต้องป้องกันพื้นที่ไม่ให้ทหารสหภาพยึดพื้นที่ได้ หลังจากนั้นเมื่อสงครามได้จบลงพวกเขาพบว่ากองทหารฝ่ายตรงข้ามได้บุกรุกบ้าน และฆ่าแม่ผู้บังเกิดเกล้าเสียชีวิตทำให้ทั้ง 2 คนต้องหันจากอดีตและออกเดินทาง ทว่าระหว่างการเดินทางได้ไปพบกลุ่มแม็กซิกันที่กำลังตามหาขุมทรัพย์แห่ง Juarez ความน่าสนใจของเนื้อเรื่องคือการนำเสนอเป็นอย่างดี มีความน่าติดตามและหักมุม ยกตัวอย่างเช่นตอนที่ตัวเอกทั้ง 2 คนได้รับภารกิจช่วยเหลือคนๆ หนึ่งที่ติดคุกอยู่ ซึ่งบุคคลคนนั้นได้ถูกปิดใบหน้าทั้งหมดและหลังจากช่วยเหลือแล้วจึงได้พบว่า คนๆ นี้คือตัวละครประกอบที่อยู่ในตอนต้นเกม เป็นต้น
นอกจากนั้นความโดดเด่นในเรื่องการเล่าเรื่องและการเล่นมุมกล้องเกมที่ทำให้ภาพออกมาสวยอย่างมีเสน่ห์ เห็นได้ชัดว่า William ลูกพี่ลูกน้องของตัวเอก 2 ตัวเป็นคนตัวแทนเล่าเรื่องถึงพฤติกรรมและการกระทำของทั้งสอง โดยปกติแล้วเกมอื่นๆ ตัวเอกของเกมมักเป็นคนเล่าเรื่อง มันทำให้ผู้เล่นได้ทราบในมุมมองโดยรวมของผู้ที่รับใช้พระเจ้ากับการถูกผิด ขณะที่ตัวเอกของเกมผู้เล่นได้ทราบถึงการต่อสู้และบทดราม่าประมาณหนึ่งทำให้ ผู้เล่นทราบทั้งมุมมองของคนเลวและคนดี ระหว่างการดำเนินเนื้อเรื่องได้มีการใช้กราฟิกเกมเป็นตัวเดินเรื่องทั้งสิ้นจนแทบไม่มีมูฟวี่เกมที่แปลงภาพออกมาเลย อีกทั้งมุมกล้องของเกมทำในรูปแบบภาพยนตร์เรื่องๆ หนึ่งชวนดึงดูด
ช่วงเริ่มต้นเกมในแต่ละด่านผู้เล่นจะต้องเลือกว่าจะเล่นตัวละครตัวใด ผู้เล่นความสามารถและอาวุธที่ใช้จะแตกต่าง เช่น Ray เน้นการปะทะกับศัตรู ส่วน Thomas เน้นการช่วยเหลือและการเล่นเกมได้เน้นช่วยเหลือระหว่างการเล่น ระหว่างการผจญภัยตามเมืองต่างๆ มีความสนุกการไล่ยิงศัตรูไปๆ มาๆ และชมทัศนียภาพแบบตะวันตกในแถบแห้งแล้งตั้งแต่ประเทศเม็กซิโกจนไปถึงรัฐอริโซน่า นอกจากยิงและทำลายอย่างเดียวแล้วเกมนี้ยังเพิ่มระบบสโลโมชั่นเพื่อง่ายต่อการรับมือศัตรูเป็นจำนวนมาก ซึ่งรูปแบบของ Ray เพียงแค่เล็งที่เป้าหมายและจะทำการยิงโดยอัตโนมัติ ส่วนรูปแบบของ Thomas จะเล็งเพื่อหวังผลแบบตัวต่อตัว อย่างไรก็ตามควรคำนึงถึงกระสุนปืนและบรรจุกระสุนทุกครั้งเพื่อใช้งาน หากเบื่อหน่ายกับการตะลุยฉากทุกๆ ฉากจะมีฉากหนึ่งที่ศัตรูทำการท้าให้ผู้เล่น ดวลปืนตัวต่อตัวโดยหลังจากลั่นระฆัง ผู้เล่นต้องรีบคว้าปืนและยิงฝ่ายตรงข้ามให้เร็วที่สุด ระบบนี้ได้สร้างถึงการต่อสู้ในสไตล์คาวบอยอย่างเห็นได้ชัดและเป็นการสร้างไหวพริบในระดับหนึ่งด้วย
การตะลุยเกมเกือบทุกฉากมันทำให้การเล่นดูน่าเบื่อ การกระทำระหว่างตัวเอกมีอยู่ซ้ำๆ โชคดีที่มีฉากคั่นเนื้อเรื่องให้ผู้เล่นทำ ภารกิจเสริมเพื่อเก็บเงินซื้ออาวุธ มีบางส่วนตอนที่ช่วยพยุงตัวเอกอีกคนเพื่อขึ้นที่สูง หากผู้เล่นพลัดตกลงไปคอมพิวเตอร์จะไม่กลับมาช่วยใหม่และถือว่าช่วยครั้งเดียว ยิ่งถ้าเป็นฉากที่ต้องขึ้นที่สูงเท่านั้นผู้เล่นควรโหลดเซฟเกมใหม่ สิ่งที่จะบอกคือคอมพิวเตอร์มักช่วยให้ผู้เล่นมุ่งไปข้างหน้าและไม่มองกลับหลังเลย และระบบ AI ที่ยังแย่ไม่มีความท้าทายถือเป็นข้อด้อยที่มีผลต่อการเล่น ศัตรูจะเน้นการวางตำแหน่งด้วยอาวุธที่ครบมือเพื่อให้เกิดการเสียเปรียบ ถึงแม้ศัตรูจะแห่เข้ามา 7 – 8 ตัวก็ตาม ผู้เล่นมักมีบทบาทเป็นคนปิดฉากการต่อสู้มากกว่า
กราฟิกเกมทำออกมาอย่างสวยงาม ผู้เล่นจะเห็นทัศนียภาพอันกว้างใหญ่รวมไปถึงตัวละครที่ออกแบบมาเป็นอย่างดี และสมจริง เอนจิ้นที่ใช้สำหรับเกมนี้คือ Chrome Engine พัฒนาในด้าน Bump Mapping, HDR และสนับสนุน DirectX 9.0c มากขึ้น ส่วนระบบเสียงทำออกมาได้ดี ผู้เล่นจะได้ยินเสียงปืนที่ยิงมาจากระยะไกลและเสียงธรรมชาติในฉาก นอกจากนั้นเสียงก็เป็นส่วนหนึ่งทำให้การเล่นดูตื่นเต้น ทว่าเพลงได้เล่นวนไปมาอยู่บ้างก็ตาม
Call of Juarez: Bound in Blood มีดีตรงที่เนื้อเรื่องที่ติดตามอยู่เรื่อยๆ และสนุกกับการถือปืนคู่ไล่ยิง ศัตรูที่แห่เข้ามาเป็นโขยง กล่าวคือเล่นแล้วรู้สึกคุ้มค่าต่อการเล่นและเพลิดเพลินเรื่อยๆ บางทีมันก็อาจทำให้รู้สึกหลงรักบรรยากาศแบบคาวบอยไม่มากก็น้อย
ระบบความต้องการคอมพิวเตอร์
– Windows XP (SP3)/Windows Vista (SP1)
– Intel Pentium 4 3.2 Ghz, Intel Pentium D 2.66 Ghz, AMD Athlon 64 3500+
– 1 GB Windows XP / 2 GB Windows Vista 1 GB
– NVIDIA GeForce 6800-9800/GTX 260-280/ATI RADEON X1650 – 1950/HD 2400-4870
– 4 GB of disk space
– DirectX 9.0c sound card compatible with DirectX 9.0
– DVD-ROM
?
?
Review by
