ในปีหน้า สถาปัตยกรรมของชิปประมวลผลคอมพิวเตอร์ก็ยังคงเป็นอีกหนึ่งเทคโนโลยีที่น่าจับตามองเหมือนเช่นที่ผ่านมา โดยที่มีการเปิดเผยแผนล่วงหน้ามาแล้วก็อย่างเช่น Intel ซึ่งในปีหน้าจะส่งชิปประมวลผลในโค้ดเนมว่า Haswell ที่เป็นชิปประมวลผล Intel Core รุ่นที่ 4 (4th Generation) ออกมาสู่ท้องตลาด โดยยังคงใช้ระดับสถาปัตยกรรมอยู่ที่ 22nm เช่นเดียวกับ Intel Ivy Bridge ในปัจจุบัน แต่มีการปรับเปลี่ยนโครงสร้างภายใน ทำให้ตัวชิปมีประสิทธิภาพการทำงานที่ดีขึ้นทั้งด้านการประมวลผลตามปกติและการประมวลผลกราฟิก แต่จากรายงานของ IEDM (International Electron Devices Meeting) ที่ออกมาก่อนหน้านี้ ได้คาดการณ์ไว้ว่าต้นทุนของแผ่นเวเฟอร์ที่ใช้ผลิตชิปน่าจะสูงขึ้น จนอาจส่งผลกระทบกับราคาจำหน่ายด้วย โดยคาดกันว่าน่าจะสูงกว่าแผ่นเวเฟอร์สำหรับผลิตชิปสถาปัตยกรรม 28nm ของ TSMC ถึงราว 30-40% เลยทีเดียว
ซึ่งในเรื่องนี้ Intel ก็ออกมาให้ข้อมูลว่าชิปสถาปัตยกรรม 22nm ของตนที่จะออกมาในปีหน้าจะมีต้นทุนไม่สูงขึ้นจากเดิมแน่นอน อีกทั้งส่วนของประสิทธิภาพการทำงานร่วมกับอุปกรณ์ความเร็วสูงอย่าง Ethernet, HDMI และ PCI Express เมื่อเทียบกับพลังงานที่ใช้ไปจะสูงขึ้นจากปัจจุบัน 51-56% เนื่องด้วยการปรับเปลี่ยนโครงสร้างภายในตั้งแต่ตัวทรานซิสเตอร์
ส่วนทาง IBM นั้นก็เปิดเผยมาด้วยเช่นกันว่าจะส่งชิปประมวลผลสถาปัตยกรรมระดับ 22nm สำหรับเซิฟเวอร์ออกมาในปีหน้าด้วย โดยขณะนี้ยังอยู่ในขั้นตอนการทดสอบอยู่ ซึ่งทางทีมวิศวกรของ IBM ตั้งเป้าไว้ว่าจะสร้างชิปประมวลผลที่มีประสิทธิภาพสูงกว่าโหนดแบบเดิม 25-35% ซึ่งจะทำให้ตัวชิปสามารถทำงานได้ที่ความเร็วสูงถึง 5.5 GHz ได้ และน่าจะสามารถจำหน่ายในตลาดเซิฟเวอร์ได้ในปีหน้าอย่างแน่นอน
ที่มา : EE Times