ช่วงก่อนที่ Windows 8 จะวางตลาดนั้น ผู้เชี่ยวชาญหลายๆ ท่านได้ออกมากล่าวว่าระบบจอสัมผัสนั้นไม่ใช่สิ่งจำเป็นสำหรับคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คเลย และสตีฟ จ็อบส์ เองก็เคยกล่าวเอาไว้เมื่อช่วงปี 2010 ว่า “รูปแบบจอสัมผัสนั้นไม่ต้องการรูปทรงแนวตั้ง” เป็นหนึ่งในเหตุผลของทาง Apple ว่าทำไม MacBook นั้นไม่ต้องการระบบจอสัมผัสเลย
และช่วงต้นปีที่ผ่านมานั้น ทิม คุ๊ก เองก็ได้กล่าวเอาไว้เช่นกันว่า “คุณจะเอาเครื่องปิ้งขนมปังมารวมกับตู้เย็นก็ได้ แต่ผู้ใช้ก็คงจะไม่ชื่นชอบมันเท่าไหร่หรอก” ซึ่งเป็นมุมมองจาก Apple เกี่ยวกับ Convertible Tablet PC
โดยในตอนแรกนั้น ผู้รายงานข่าวจากต่างประเทศนั้นก็เห็นว่าระบบจอสัมผัสนั้นเป็นสิ่งที่ล้ำสมัยไปมากเช่นกัน แต่สำหรับการใช้งาน Windows 8 นั้น การใช้งาน Gesture Control นั้นทำงานได้ง่ายกว่ามาก ซึ่ง สตีฟ จ็อบส์ เองก็ได้ออกมาวิพากย์วิจารณ์เกี่ยวกับระบบจอสัมผัสอย่างรุนแรงครั้งหนึ่งเหมือนกัน เกี่ยวกับว่ามันจะก่อให้เป็น “Gorilla Arm Syndrome” คือการที่ยกมือค้างเอาไว้ที่หน้าจอเพื่อเตรียมสัมผัสจอเพื่อสั่งให้เครื่องคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คทำงาน ไหนจะไม่สะดวกสบายอีกทั้งยังไม่น่าดูอีกด้วย และพอเริ่มเมื่อยก็เอาแขนมาพักเอาไว้ที่แท่นคีย์บอร์ดอย่างนั้นหรือ?
ในด้านของความคิดเห็นจากสื่อต่างประเทศนั้น คิดว่าระบบจอสัมผัสนั้นเป็นสิ่งที่ดีเช่นกัน เพราะในช่วงเวลาเร่งรีบที่ต้องทำงานแล้วต้องเข้าแถวรอขึ้นรถไฟนั้น ก็สามารถใช้ระบบจอสัมผัสในการทำงานได้ในขณะที่ตอนนั้นไม่สะดวกที่จะใช้คีย์บอร์ดในการพิมพ์หรือทำงาน และทำให้การทำงานของเครื่องนั้นเป็นธรรมชาติยิ่งขึ้นอีก ทว่าการทำงานในระบบ Desktop Mode นั้น Mouse และ Keyboard ก็ยังเป็นสิ่งที่จำเป็นต่อการใช้งานอยู่เช่นเดิม โดยทางสื่อต่างประเทศนั้นได้กล่าวว่าความละเอียดที่ 1366 x 768 กับความกว้างของหน้าจอที่ 15.6″ นั้นเป็นความกว้างและความละเอียดที่ดีที่สุดในการใช้งานระบบจอสัมผัส โดยทางสื่อได้ออกชื่อรุ่นที่ทำงานได้ดีออกมา คือ Hp Envy Touchsmart Ultrabook 4, Acer Aspire M5 ที่ขนาดจอ 14″ โดยรุ่นที่กล่าวมานี้ใช้งานง่ายกว่ารุ่นที่ความละเอียดหน้าจอระดับ 1080P และมีขนาดจอที่ 11.6″ อย่าง Sony Vaio Duo 11, DELL XPS Duo 12 ขนาดจอ 12.5″ และ ?Acer Aspire S7 เพราะเหตุผลที่ว่าทางไมโครซอฟท์นั้นไม่ได้ทำการตั้งค่ามาให้เป็นพิเศษ การแตะสัมผัสที่ไอคอนนั้น จึงไม่ได้สเกลนัก?
โดยทาง Apple นั้นที่มีระบบจอ Retina Display ก็มีการออกแบบเพื่อรองรับการทำงานโดยออกแบบให้มี 4 Pixel เล็กใน 1 Pixel ที่แสดงผล ทำให้การแสดงผลนั้นออกมาชัดและละเอียดยิ่งขึ้นแต่ทว่าขนาดของไอคอนนั้นยังเท่าเดิม ส่งผลให้การแสดงผลรูปภาพนั้นออกมาดียิ่งขึ้น
ซึ่งเรื่องนี้ ทางไมโครซอฟท์เองก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ โดยมีโครงการ “Windows Blue” ที่จะมีการอัพเดทระบบปฏิบัติการด้วย และแก้เรื่องความคลาดเคลื่อนของ UI Scale ด้วย เพื่อหาทางปรับปรุงการทำงานกับระบบจอสัมผัสให้ดียิ่งขึ้น โดยโอกาสนั้นยังมีอยู่เพื่อป้องกันการถูก Apple รุกแซงหน้าในปี 2013 อีกครั้งหนึ่ง
ที่มา :?theverge