หลังจากเปิดตัวแท็บเล็ต Microsoft Surface ออกมาได้สักพักแล้ว ทางไมโครซอฟท์ก็ได้เชิญผู้ประกาศข่าวให้ไปทำข่าวยังพื้นที่จัดแสดงที่เคยใช้เป็นที่ทดสอบของ Microsoft?Surface?RT?เองด้วย ซึ่งปกติแล้ว จะเข้าไปไม่ได้ แต่ครั้งนี้เป็นโอกาสพิเศษครับ
ซึ่งในตอนนี้ เราจะกล่าวถึง Microsoft?Surface?RT (ใช้ชิปประมวลผลสถาปัตยกรรม ARM) ที่ออกมาวางจำหน่ายแล้วอย่างเดียวก่อนนะครับ ส่วนแบบ Microsoft Surface Pro (ใช้ชิปประมวลผลสถาปัตยกรรมแบบเดี่ยวกับพวก Intel Core i) ที่ยังไม่ออกจำหน่ายเรายังไม่พูดถึงนะครับ ไว้วันที่นำออกมาจำหน่ายแล้วเราจะพูดถึงอีกทีหนึ่ง โดยจะจำหน่ายอย่างเป็นทางการในช่วงเดือนมกราคมปีหน้าที่จะถึงนี้ ดังนั้นเรามาดูกันดีกว่าครับ ว่า 3 ปีที่ผ่านมากับ Microsoft?Surface?RT?มีอะไรกันบ้าง
ส่วนแสดงผลภาพ
ตอนแรกที่ประกาศแนะนำ Microsoft?Surface?RT?นั้น ความละเอียดจออยู่เพียง 1366 x 768 pixel เท่านั้น ซึ่งถ้าเทียบความละเอียดแล้ว Android Tablet ระดับบนจะอยู่ที่ 1920 x 1080 pixel ส่วน iPad ตัวล่าสุดจะอยู่ที่ 2048 x 1536 pixel ซึ่งดูแล้ว Microsoft Surface?RT น้อยที่สุดในกลุ่ม แต่ไมโครซอฟท์อ้างว่า ความละเอียดที่ 1366 x 768 นั้นก็เพียงพอแล้วที่จะสร้างภาพคุณภาพความละเอียดสูงได้แล้ว รวมทั้งไม่ก่อปัญหาให้กับเว็บไซต์ต่างๆ ที่ใช้ความละเอียด 1366 x 768 เป็นพื้นฐานในการสร้างด้วย
สำหรับ Touch Screen ตัว Surface มีการออกแบบที่เกี่ยวพันกับการมองเห็นด้วย กล่าวคือ ตัวจอ LCD กับตัว Touch panel เป็นชั้นเดียวกัน ทำให้โอกาสเกิดการสะท้อนแสงน้อยลงไปและทำงานร่วมกับเทคโนโลยี ClearType ของไมโครซอฟท์เองด้วย ทำให้ subpixel ที่ขอบของภาพนั้นลดความกระด้างลงไปอีก พร้อมสีสันยังดูสดใสและมุมมองกว้างด้วย IPS Panel
ฮาร์ดแวร์ตัวเครื่อง
หลังจากถกเถียงกันเกี่ยวกับปัญหาต่างๆ มาเรียบร้อยแล้วจึงสรุปลงตัวที่ขนาด 10.6 นิ้ว เพราะว่าถ้ามากกว่านี้ก็พกพาลำบาก และถ้าน้อยกว่านี้ก็แสดงผลของภาพออกมาได้ไม่ดี โดย 0.5 นิ้วที่เพิ่มมาจากขนาด 10.1 นิ้วปกตินั้น เอื้อผลดีให้กับส่วนของ Touch Cover ให้มีการวาง Lay Out ออกมาได้ดียิ่งกว่าเดิม
Touch Cover เป็นส่วนสีฟ้าในภาพด้านบนครับ เป็นส่วนที่เป็นแผ่นปิดกันรอยที่หน้าจอของ Microsoft?Surface?RT?แต่เพิ่มส่วนที่เป็นคีย์บอร์ดกับ Touch Pad เข้ามาให้ใช้ในการพิมพ์ได้ โดยจะมีทั้งแบบปุ่มนูนและแบบพิมพ์สัมผัส พร้อมกับมีสีหลากหลายสีให้เลือก รวมทั้งด้านหลังที่เป็น Back Cover จะมีส่วนที่เป็นแท่นขาตั้งแบบแม่เหล็กให้ตั้งตัวจอไว้ได้อย่างในภาพด้านล่างครับ โดย?Back Cover จะเป็นส่วนหนึ่งของด้านหลังเครื่องมาอยู่แล้ว
ในส่วนของตัวเครื่อง?Microsoft?Surface?RT?จัดได้ว่ามีความหนาพอสมควรอยู่ที่ 37 มิลลิเมตร และหนัก 680 กรัม (iPad หนัก 652 กรัม) ซึ่งน้ำหนักก็ถือว่าไม่ได้ต่างกันมากมาย แต่ความหนาระดับนั้นเรียกได้ว่ามีความหนาที่สุดในกลุ่มแท็บเล็ต 10 นิ้วก็ว่าได้ แต่ไมโครซอฟท์ชดเชยด้วยการออกแบบ ที่จะทำให้รู้สึกว่ามันเบากว่ารุ่นอื่นที่มีน้ำหนักเท่ากัน ในส่วนความหนานั้น ชดเชยที่ Surface มี USB Port ขนาดปกติติดตั้งมาให้ ส่วนแท็บเล็ตอื่นๆ อย่างดีก็มีเพียง Micro USB มาให้ สำหรับในด้านการชาร์จไฟนั้น ไมโครซอฟท์ก็เคลมว่าสามารถชาร์จไฟเพียง 1-2 ชั่วโมงก็นำมาใช้งานได้ทันทีอีกด้วย
อุปกรณ์เสริมอย่าง Touch Cover ก็ออกแบบมาให้ดึงออกได้ง่าย เพราะถ้าแข็งมากแล้ว เวลาต่อคีย์บอร์ดเข้ากับตัวเครื่องแล้วจะดึงออกได้ยากเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาตอนใช้งาน ซึ่งสิ่งที่ไมโครซอฟท์ภูมิใจนำเสนอนั้น คือตัวแทนของบริษัทหลายต่อหลายคนสาธิตการห้อยตัว Tablet ให้ลอยอยู่กลางอากาศโดยผู้ทดสอบถืออยู่ที่ฝั่ง Touch Cover เท่านั้น ซึ่งมันก็ไม่หลุดตกพื้นเลย ซึ่งส่วนนี้ ทางไมโครซอฟท์เองก็จัดการทดสอบ Drop Test ด้วยตัวเองที่โรงงานผลิตในประเทศจีนแล้ว
โดยในภาพนี้เป็น Touch Cover เมื่อแยกออกจาก Surface ครับ มีสีให้เลือกหลายสีทีเดียว
เป็นอย่างไรกันบ้างครับกับ Microsoft?Surface?RT ที่จัดได้ว่าเป็นแท็บเล็ตรุ่นแรกจากทางไมโครซอฟท์ ซึ่งถ้าไมโครซอฟท์ไทยเอาเข้ามาแล้ววางราคาดีๆ ล่ะก็ อาจจะตีตลาดไทยได้นะครับ เพราะส่วนตัวจากการเล่น Windows 8 กับหน้าจอสัมผัสเอง ก็ทำออกมาได้ดีพอควรเลย ถ้าอยากเล่นก็ลองหาลู่ทางดูครับ หรือจะลองรอไมโครซอฟท์ไทยนำเข้ามาก็น่าสนใจนะครับ
สำหรับคนที่สนใจในส่วนสเปกสามารถติดตามสเปกเต็มๆ ได้ที่นี่เลย?https://notebookspec.com/tablet/355-Microsoft-Surface-(RT).html?