Connect with us

Hi, what are you looking for?

Notebook News

สเปก ราคา iPad 4 (iPad with Retina Display)

ถือได้ว่าเป็น iPad รุ่นล่าสุดของ Apple กับการต่อยอดมาจาก The new iPad ซึ่งนั้นก็คือ iPad 4th Generation

ถือได้ว่าเป็นแท็บเล็ตรุ่นล่าสุดของ Apple กับการต่อยอดมาจาก The new iPad ?ซึ่งนั้นก็คือ?iPad 4th Generation หรือที่ Apple ใช้เรียกในเว็บว่า iPad with Retina Display?ซึ่งก็น่าจะพอเรียกว่ากันง่ายๆ ว่าเป็น iPad 4 นะครับ

Advertisement

โดยรูปทรงและหน้าตารวมๆ ของเครื่องนั้นก็ยังคงเป็นเช่นเดียวกับ The new iPad (iPad 3) เกือบทุกอย่าง ยกเว้นพอร์ตการเชื่อมต่อที่เป็น Lightning เท่านั้น รวมไปถึงปรับเปลี่ยนสเปกภายในให้มีความแรงขึ้น โดยรายละเอียดที่น่าสนใจของ iPad 4 ก็มีดังนี้

  • ใช้ชิปประมวลผล Apple A6X dual-core มาพร้อมชิปประมวลผลกราฟิกแบบ quad-core
  • จอขนาด 9.7 นิ้ว ความละเอียด 2048 x 1536 พิกเซล เท่ากับ The new iPad (iPad 3)
  • ประสิทธิภาพของทั้งการประมวลผลและการแสดงผลกราฟิกดีกว่า iPad 3 อยู่สองเท่าตัว
  • เปลี่ยนไปใช้พอร์ต Lightning เหมือนอย่างใน iPhone 5 และ iPod Touch Gen 5
  • เปลี่ยนชิป 4G LTE ในเครื่องให้รองรับกับเครือข่ายได้มากขึ้น
  • กล้อง iSight (กล้องหลัง) ความละเอียด 5 MP
  • กล้อง FaceTime (กล้องหน้า) ความละเอียด 1.2 MP
  • ยังใช้ micro SIM เหมือนกับ iPhone 4, 4S อยู่
  • ขนาดและน้ำหนักตัวเครื่องเท่าเดิมไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ
  • >>>?สเปก?iPad 4 รุ่น WiFi
  • >>>?สเปก?iPad 4 รุ่น Cellular+WiFi
singular 2x copy
?
ราคา iPad 4 ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ?
  • 16 GB WiFi ราคา 16,500 บาท
  • 32 GB WiFi ราคา 19,500 บาท
  • 64 GB WiFi ราคา 22,500 บาท
  • 16 GB 4G+3G ราคา 20,500 บาท
  • 32 GB 4G+3G ราคา 23,500 บาท
  • 64 GB 4G+3G ราคา 26,500 บาท

พร้อมจำหน่ายในไทยอย่างเป็นทางการตามตัวแทนจำหน่ายอย่าง iStudio ประมาณเดือนธันาคมนี้

คุณสมบัติหลักๆ ที่น่าสนใจก็จะประกอบไปด้วย

ประสิทธิภาพของ iPad 4

สเปกที่ใช้นั้น เรียกได้ว่าถอดแบบมาจาก iPad 3 แทบจะทั้งหมด ยกเว้นแต่ในส่วนของ?ชิปประมวลผล Apple A6X ความเร็ว 1 GHz?Dual Core และแรม?RAM ขนาด 1 GB
ความแตกต่างระหว่าง iPad 3 และ iPad 4 ที่ค่อนข้างชัดเจน โดยเฉพาะความเร็วในการเปิดใช้งานแอพ ซึ่งทั้งนี้ก็เป็นเพราะประสิทธิภาพของชิป Apple A6X นั่นเอง ทำให้สามารถเรียกใช้งานแอพได้เร็วทันใจกว่าเดิมมาก ส่งผลให้สามารถเรียกได้เลยว่าเป็นอุปกรณ์ iDevice ที่มีประสิทธิภาพความแรงสูงสุด?(จากการทดสอบ GeekBench) สูงที่สุด โดยมีคะแนนสูงกว่า iPad 3 อยู่สองเท่านิดๆ เลยทีเดียว และยังสูงกว่า iPhone 5 อยู่ประมาณ 10% ด้วย?ด้านของระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่จากการทดสอบ โดยการเปิดวิดีโอแบบวนลูป, เชื่อมต่อ WiFi และควบคุมระดับความสว่างจอ พบว่าสามารถใช้งานได้กว่า 11 ชั่วโมง 8 นาที (รุ่น WiFi)
?

จอแสดงผล

Screen Shot 2555 11 12 at 4.58.53 PM

หน้าจอที่ใช้ใน iPad 4 เป็นจอ Retina Display ที่ใช้พาเนล IPS ขนาด 9.7 นิ้ว ความละเอียด 2048 x 1536 พิกเซล โดยมีค่าความหนาแน่นของเม็ดพิกเซลอยู่ที่ 264 ppi ที่แน่นอนว่าเหมือนกันกับ iPad 3 โดยสูงกว่าใน iPad 2 ซึ่งมีแค่ 132 ppi และ iPad Mini ที่มีอยู่เพียง 163 ppi เท่านั้น ทำให้ภาพที่เราเห็นบน iPad 4 จะมีความเนียนกว่าบน iPad 2 และ iPad Mini อยู่พอสมควร ตามมาตรฐานของ Retina Display ส่งผลให้ประสบการณ์ใช้งานที่น่าประทับใจอย่างยิ่ง
?

กล้องถ่ายภาพ

กล้องหน้า (FaceTime) นั้นไม่ได้ให้ภาพที่ดีเท่ากับกล้องหน้าของ iPhone 5 หรือของ iPod Touch Gen 5 ซึ่งส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะจอที่มีขนาดและความละเอียดสูงกว่ามาก (ความละเอียดของจออยู่ที่สามล้านกว่าพิกเซล ส่วนกล้องหน้ามีความละเอียดเพียง 1.2 ล้านพิกเซล) ทำให้ภาพถ่ายที่ปรากฏบนจอมันดูไม่สวยงามเท่ากับใน iPhone 5 (ความละเอียดจอแค่เจ็ดแสนกว่าพิกเซล) แต่ทั้งนี้ก็นับว่าดีกว่า iPad รุ่นเก่าอยู่มาก ส่วนกล้องหลังนั้นให้ภาพขึ้นจอที่คมชัดดี ไม่ต่างจากเก่ามากนัก
?

การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต

?

ตัวของ iPad 4 นั้น มีให้เลือกทั้งรุ่น WiFi และ WiFi+cellular ซึ่งส่วนของ cellular นั้นก็รองรับการเชื่อมต่อ 4G LTE ด้วย เช่นเดียวกับ iPad 3, iPad 4 และ iPhone 5 ?ส่วนของ WiFi นั้น รองรับการเชื่อมต่อมาตรฐาน 802.11a/b/g/n ซึ่งตัวของมาตรฐาน n นั้น รองรับการใช้งานทั้งคลื่นความถี่ 2.4 GHz (คลื่นที่ใช้งานทั่วไป) และความถี่ 5 GHz (เริ่มเป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อยๆ) ซึ่งที่ความถี่ 5 GHz จะทำให้สามารถใช้งาน WiFi ได้ที่ความเร็วสูงกว่า 2.4 GHz ด้วย แต่ทั้งนี้ตัวกระจายสัญญาณ เช่น WiFi Router หรือ Access Point ต้องรองรับการปล่อยคลื่นที่ 5 GHz ด้วย
?

บอดี้และรูปร่างตัวเครื่อง

Screen Shot 2555 11 12 at 4.46.40 PM

ตัวเครื่อง iPad 4 นั้น เรียกได้ว่าเกือบที่จะเหมือน iPad 3 แทบทุกอย่าง (แน่นอนว่ามีให้เลือก 2 สีเช่นเดิม คือ ดำและขาว) ทั้งในเรื่องความบางที่บางเพียง 9.4 มิลลิเมตร และมีน้ำหนักเพียง 652 กรัมเท่านั้น ?ส่วนดีไซน์ก็ยังคงรูปแบบไว้เช่นเดิม ส่งผลให้การจังถือและใช้งานยังทำได้โดยง่าย ใครที่เคยใช้ iPad 3 อยู่แล้วก็จะสามารถใช้งานได้เหมือนเดิมทุกๆ อย่าง ถึงว่าหากเทียบกับ iPad 2 ที่มีน้ำหนักเบากว่าก็ตามที ซึ่งข้อสังเกตที่ทำให้ iPad 4 ยังมีความบางและน้ำหนักนี้อยู่ก็คือแบตเตอรี่ ที่จำเป็นต้องใช้ถึง 11666 mAh ในการใช้งานเพื่อให้ได้ทั้งประสิทธิภาพและการจัดการพลังงานที่ดี
?
แต่มีสิ่งหนึ่งที่เห็นเป็นรูปธรรมว่ามีการเปลี่ยนแปลงมากที่สุดก็คือพอร์ตเชื่อมต่อที่เปลี่ยนมาใช้เป็นพอร์ต Lightning และอนาคตของตัวเครื่องที่จะต้องมีนักพัฒนาสร้างแอพขึ้นมารองรับแน่นอน ดังนั้นซื้อ iPad 4 ไปก็น่าจะสามารถเก็บไว้ใช้ได้อีกนาน (ถ้าไม่โดนเปลี่ยนรุ่นเร็วเกินไป) โดยเหตุผลที่ Apple รีบส่ง iPad 4 ออกมาทำตลาดก็น่าจะเป็นเพราะความต้องการขายสินค้าในช่วงวันหยุดที่จะมาถึงนี้ และอีกอย่างคือต้องการเร่งขยายฐานผู้ใช้งานพอร์ต Lightning เพิ่มขึ้นโดยเร็วเท่านั้นเอง
Click to comment
Advertisement

บทความน่าสนใจ

How to

ไอแพดชาร์จไม่เข้าไม่ต้องตกใจ มีวิธีแก้ไขง่ายๆ ทำได้ด้วยตัวเองไม่ต้องส่งช่างให้เปลืองเงินอีกด้วย!! ยุคนี้ไม่ว่าใครก็ยอมรับว่าไอแพดเป็นแท็บเล็ตที่ดี ใช้ทำงานได้ยอดเยี่ยมไม่แพ้คอมพิวเตอร์แต่บางคนก็อาจเจอปัญหาว่าใช้ไปสักพักแล้วไอแพดชาร์จไม่เข้าเสียอย่างนั้นจนต้องพาเข้าศูนย์ Apple หรือถ้าหมดประกันก็ต้องพึ่งร้านตู้เจ้าต่างๆ ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะแก้ปัญหาได้ถูกจุดหรือก่อปัญหาอื่นเพิ่มแทนกันแน่? ซึ่งวิธีแก้ปัญหาไอแพดชาร์จไม่เข้านั้นง่ายกว่าที่คิดมากสามารถแก้เองก่อนได้ ถ้าเกินฝีมือแก้เองไม่ได้จะส่งช่างให้เช็คโดยละเอียดก็ไม่เสียดายภายหลังแน่นอน ปัญหาการชาร์จไม่เข้า หลักๆ คือพอร์ต USB-C หรือ Lightning อาจมาจากความสกปรกไม่ว่าจะหน้าคอนแท็คทองเหลืองเกิดคราบออกไซด์หรือมีฝุ่นจากกระเป๋าเข้าไปอุดตันเยอะจนดันหัวสายชาร์จไม่เข้า, สายชาร์จก็ไม่ได้มาตรฐานเลยชาร์จไม่ได้ ไปจนถึงเรื่องง่ายๆ อย่างการเสียบชาร์จเข้าพอร์ต USB ของพีซีหรือโน๊ตบุ๊คแล้วกระแสไฟไม่พอชาร์จก็อาจเกิดขึ้นได้เหมือนกัน ซึ่งปัจจัยต่างๆ ในตัวอย่างก็แก้ได้ไม่ยาก...

รีวิว Huawei

บอกลาแสงจ้าด้วยหน้าจอ PaperMatte Display บน HUAWEI MatePad 11.5 PaperMatte Edition ได้รับ 3 การรับรองสถาบันชั้นนำจาก SGS Low Visual Fatigue Premium Performance Certification, TUV Rheinland Low Blue Light...

Buyer's Guide

แท็บเล็ตราคาไม่เกิน 3000 บาทอยากซื้อไว้ดูหนังหรืออ่านหนังสือก็ได้นะ! แม้แท็บเล็ตราคาไม่เกิน 3000 บาทจะดูราคาไม่แพงมากจนบางคนติดภาพว่าประสิทธิภาพของมันคงทำอะไรไม่ได้มาก แต่จริงๆ แล้วชิปเซ็ตยุคใหม่นี้ก็มีประสิทธิภาพดีขึ้นพอควร จะใช้ดูคลิปบน YouTube หรือใช้เป็น Ebook Reader ก็ยังได้ แถมส่วนใหญ่ติดตั้งพอร์ต USB-C มาให้โอนไฟล์และชาร์จแบตเตอรี่แล้ว และขนาดตัวเครื่องก็พกพาง่ายเพียง 8 นิ้วเท่านั้น จึงหยิบใส่กระเป๋าไปไหนมาไหนได้ง่ายขึ้นมาก อย่างไรก็ตามเนื่องจากเป็นแท็บเล็ตราคาประหยัดทำให้ผู้ผลิตไม่ค่อยอัปเดตเวอร์ชั่น Android ให้เป็นปัจจุบันนัก...

รีวิว Huawei

HUAWEI MatePad Air เบาและแรง ยกระดับหน้าจอคมชัดตอบสนองไว เปลี่ยนชีวิตการทำงานให้ง่ายกว่าเก่า พร้อมฟีเจอร์ HUAWEI Notes รองรับการเชื่อมต่ออุปกรณ์เสริมทั้งแป้นพิมพ์และปากกา M-Pencil การมีแท็บเล็ตประสิทธิภาพดีติดกระเป๋าเอาไว้ นอกจากใช้ทำงานแบบรวดเร็วหรือเซ็นเอกสารยิ่งต้องพึ่งอุปกรณ์ชิ้นนี้เลย ซึ่ง HUAWEI MatePad Air แท็บเล็ตรุ่นล่าสุดจากแบรนด์ที่ขึ้นชื่อเรื่องอุปกรณ์ไอทีเช่นนี้อยู่แล้วยิ่งน่าสนใจ แม้จะมีชื่อตามท้ายว่า Air ก็จริง แต่สเปคและฟีเจอร์คือรุ่นเรือธงโดยไม่ต้องสงสัย ได้หน้าจอขนาดยอดนิยม 11.5...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

บันทึก