ผมเชื่อว่าหลายๆ ท่านที่ซื้อโน๊ตบุ๊คสักเครื่องคงรู้จักคำว่า International Warranty
หรือการรับประกันแบบทั่วโลกนั่นเอง ซึ่งหลายๆ แบรนด์เองก็พยายามจะเน้นโปรโมทเพื่อให้ลุกค้าทั้งต่างชาติเอง และคนไทยที่ต้องเดินทางไปต่างประเทศบ่อยๆ สนใจ เพราะว่าการรับประกันแบบนี้ถ้าหากเครื่องมีปัญหาก็สามารถนำเข้าศูนย์ประเทศนั้นๆ ได้เลย ไม่ต้องอดทนรอกลับมาเคลมบ้านเรา หรือกลับมาเคลมประเทศที่ซื้อ ซึ่งช่วยให้เราสามารถใช้งานได้ต่างประเทศได้อย่างสบายใจ ไม่ต้องกังวลว่าจะเสียงานเสียการ
แต่ในความเป็นจริงแล้วการใช้บริการ International Warranty นั้นก็มีข้อแอบแฝงที่หลายๆ ท่านยังไม่ทราบ โดยเฉพาะหลายๆ แบรนด์ที่เน้นการโปรโมท International Warranty เพราะว่าในหลายๆ ประเทศนั้นไม่ได้มีรุ่นขายเหมือนบ้านเราทั้งหมด เช่นในบ้านเรา แบรนด์ BB มีรุ่น 1234 ขาย แต่ในต่างประเทศเช่น จีน อินเดีย ไม่ได้มีรุ่น 1234 ขาย แม้จะรับเคลม แต่ก็ต้องรอเวลาสั่งอะไหล่เข้าไป หรืออาจจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ไม่ได้เคลมฟรีๆ เหมือนในประเทสต้นทางที่ซื้อ
?
แน่นอนครับว่าลูกค่าส่วนใหญ่ยังไม่ทราบว่ามีค่าใช้จ่าย หรือระบบเรื่องนี้แอบเฝงอยู่ แม้จะเป็น International Warranty แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะเคลมได้ฟรีเต็ม 100% ซึ่งเราเองเป็น User ตาดำเองก็ต้องศึกษาเรื่องพวกนี้ไว้ด้วยนะครับ ซึ่งข้อมูลตรงนี้สามารถสอบถามได้จากศูนย์บริการ รวมถึงเว็บไซต์หลักของแต่ละแบรนด์ หรือสอบถามจาก Call Center ก่อนได้ครับ เพราะบางประเทศต้องใช้ใบเสร็จด้วยก่อนเดินทางเราจะได้เตรียมตัวก่อนแต่เนิ่นๆ ครับ
สรุปปัญหา International Warranty ที่มักเจอบ่อยๆ
- ประเทศนั้นๆ ไม่มีรุ่นที่เราต้องการเคลมจำหน่ายทำให้เสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม
- เสียเวลารออะไหล่ใหม่ เพราะในบางประเทศก็ไม่ได้สำรองอะไหล่ไว้ทุกรุ่น
- อาจจะเสียค่าใช้จ่ายในการขนส่งอะไหล่เพิ่มเติม
- เสียค่าอะไหล่แพงเกินความเป็นจริง เนื่องจากอิงค่าเงินแต่ต้นทุนเครื่องในประเทศนั้นๆ ซึ่งอาจจะขายแพงกว่าในบ้านเรา
- บางประเทสต้องใช้ใบเสร็จ ใบกำกับภาษีในการเคลมด้วย
ซึ่งปัญหาเหล่านี้เราควรจะสอบถามศูนย์บริการก่อนเดินทางก่อนจะดีมากเลยครับ ลำพังไปแค่ 5-7 วันคงไม่มีปัญหาอะไร แต่บางท่านไปเป็นเดือนๆ นี่แย่เลยนะครับไม่มีโน๊ตบุ๊คใช้ เหมือนขาดแขนขาดขากันเลยทีเดียว