เป็นอย่างไรกันบ้างครับ เชื่อว่าหลายๆ ท่านคงได้มีโอกาสชม?รายงานสดของ Specphone.com ที่รายงานการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ของ Apple ซึ่งพระเอกงานนี้ก็คงหนีไม่พ้น iPad Mini ที่มีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 329 เหรียญสหรัฐ หรือถ้าเข้าไทยราคาก็คงประมาณหมื่นบาทต้นๆ และการอัพเกรด The new iPad (iPad 3) เป็น iPad with Retina Display (iPad 4) จากการเปลี่ยนชิปประมวลผลเป็น A6X, Lightning Port, 4G และอีกหลายๆ ส่วน สำหรับรายละเอียดสรุป iPad Mini และ iPad 4 เข้าชมได้ทางนี้เลยครับ
แต่แน่นอนว่านอกเหนือจากจะมี iPad ที่เปิดตัวใหม่แล้วแล้ว?ก็ยังมีในส่วนของคอมพิวเตอร์ Mac ซึ่งภายในงานก็มีการเปิดตัว MacBook Pro with 13″ Retina Display ?(ต่อไปเราจะเรียกเป็น MacBook Pro Retina 13 นะครับ) หลังจากที่ได้มีการเปิดตัว?MacBook Pro Retina 15 ไปแล้ว เมื่อหลายเดือนก่อน รวมไปถึงยังมีในส่วนของ iMac คอมพิวเตอร์ All-in-one รุ่นใหม่ที่มีขอบจอที่บางเฉียบและสวยงามกว่าเดิม มาพร้อมกับชิปประมวลผล Intel Core i Gen3 (Ivy Bridge) และสเปกใหม่อื่นๆ อย่าง กราฟิกการ์ด, USB 3.0 สุดท้ายกับ Mac Mini คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะขนาดเล็กที่มีการอัพเดทสเปกในทันยุคทันสมัยมากยิ่งขึ้น ว่าแล้ว เดี๋ยวเราไปชมรายละเอียดของแต่ละผลิตภัณฑ์กันดีกว่าครับ
MacBook Pro Retina 13
สเปกเต็มๆ >>> Core i5 2.5GHz/Ram 8GB/SSD 128GB : ราคา 56,900 บาท
สเปกเต็มๆ >>> Core i5 2.5GHz/Ram 8GB/SSD 256GB : ราคา 66,900 บาท?
จัดได้ว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่ผู้คนให้ความสนใจกันมากมายรองมาจาก iPad Mini เลยทีเดียว กับ MacBook Pro Retina 13 (Late 2012) ที่ถือได้ว่าเป็น MacBook Pro ตัวที่สองนับจากการเปิดตัวและวางจำหน่าย?MacBook Pro Retina 15 เมื่อหลายเดือนก่อน (พร้อมกับมาแทนที่ MacBook Pro 13 ในอนาคต) ซึ่งก็ได้มี 2 สเปกและ 2 ราคาด้วยกัน โดยรุ่น Core i5 2.5GHz/Ram 8GB/SSD 128GB อยู่ที่ 56,900 บาท และรุ่น Core i5 2.5GHz/Ram 8GB/SSD 256GB อยู่ที่ 66,900 บาท ที่เรียกได้ว่าราคาไทยนั้นสูงกว่าราคาสากลไปประมาณรุ่นละ 5,000 บาท (1,699 เหรีญสหรัฐ จะตกประมาณ 51,000 บาท) และถ้าเทียบกับ MacBook Pro 13 ตัวเริ่มต้นรุ่นปัจจุบันราคาก็จะสูงกว่า 16,000 บาท หรือถ้านำ?MacBook Pro Retina 13 ตัวบนเทียบกับ?MacBook Pro Retina 15 ตัวเริ่มต้น ราคาก็จะห่างกันที่ 6,000 บาทเท่านั้น แต่ก็ได้อะไรที่มากกว่าเยอะ ทั้งสเปกและขนาดหน้าจอ ที่มีความคุ้มค่ากว่า (กรณีงบประมาณถึงนะครับ)?
ในส่วนของดีไซน์การออกแบบของ MacBook Pro Retina 13?นั้น ได้มีรูปแบบไปในทิศทางเดียวกับ?MacBook Pro Retina 15 ที่มีความแตกต่างกันไม่มากนัก ทั้งในส่วนของขอบจอที่บาง, ย้ายโลโก้ MacBook Pro ลงไปใต้เครื่อง, มีพัดลมและช่องดูดอากาศแบบคู่, ?ปุ่ม Power ที่ย้ายมาที่มุมคีย์บอร์ดด้านซ้าย, ตัด Super Drive ออกไป, MagSafe 2,?ช่องทางการเชื่อมต่อพอร์ตต่างๆ (USB 3.0, HDMI) และลักษณะของฮาร์ดแวร์ภายในที่มาแบบชิปฝังทั้งหมด (ไม่สามารถแม้กระทั้งเพิ่มแรมได้ภายหลัง) ซึ่ง MacBook Pro Retina 13?หน่วยความจำสำรองก็จะเป็น SSD แทนที่ฮาร์ดดิสก์แบบปกติอย่างเดิมๆ ใน?MacBook Pro 13
เรื่องที่จะต่างระหว่าง MacBook Pro Retina 13 กับ 15 กันจริงๆ ก็จะเป็นเรื่องขนาดที่เล็กกว่า, ความบางที่หนากว่า (0.1 เซนติเมตร), น้ำหนักเบากว่าที่ 1.62 กิโลกรัม ?(แต่ถ้าเทียบกับ MacBook Pro 13 ก็จะบางและเบากว่าเดิมประมาณ 20%) และหน้าจอ Retina Display ความละเอียด 2560 x 1600 พิกเซล (2 เท่าจาก MacBook Pro 13 ?โดยมีสเกลอยู่ที่ 1280 x 800 พิกเซลเท่าเดิม) ที่บรรจุอยู่ในหน้าจอขนาด 13.3 นิ้ว พาเนลคุณภาพสูงแบบ IPS ที่จัดได้ว่าเป็น MacBook รุ่นที่สองที่ใช้หน้าจอ Retina Display พร้อมกระจกที่ลดแสงสะท้อนลงไป 75% รวมไปถึงในส่วนของลำโพงที่ย้ายมาอยู่ขอบด้านข้างตัวเครื่องแทนที่จะเป็นข้างๆ บริเวณคีย์บอร์ดเหมือนอย่างตัว 15 นิ้ว ส่งผลให้คุณภาพเสียงคงจะสู้กับ?MacBook Pro Retina 15 ไม่ได้แน่ๆ
แต่สำหรับที่แตกต่างและน่าสนใจจริงๆ (หรือเศร้าใจ) ก็เป็นสเปกภายในที่?MacBook Pro Retina 13 ทั้ง 2 รุ่นนั้นมีสเปกชิปประมวลผลเป็น Core i5 Gen 4 แบบ Dual-Core ความเร็ว 2.5GHz และแรมขนาด 8GB เหมือนกัน โดยมีส่วนที่แตกต่างกันก็เพียง SSD ที่จะมีขนาด 128GB และ 256GB ให้เลือก (ต่างกันแค่ SSD แต่ราคาหากกัน 10,000บาท!!!) รวมไปถึงกราฟิกการ์ดที่ติดตั้งมาให้นั้นก็เป็นเพียง?Intel HD Graphics 4000 หรือพูดง่ายๆ ก็คือ กราฟิกการ์ดภายในของชิปประมวล Intel สถาปัตยกรรม Ivy Bridge ซึ่งอย่างที่ทราบกันดีว่าความแรงหรือประสิทธิภาพนั้นคงจะสู้กับกราฟิกการ์ดแบบแยกจริงๆ ไม่ค่อยได้นัก ถึงแม้ว่าจะสามารถขับเคลื่อนความละเอียดหน้าจอระดับ Retina Display ได้ก็ตาม แต่ในเรื่องการเล่นเกมหรือประมวลผล 3มิติหนักๆ นั้น คงไม่ไหวแน่ๆ ฉะงั้นถ้าใครงบประมาณถึงตัว?MacBook Pro Retina 15 ก็ตัด?MacBook Pro Retina 13 ไปจากตัวเลือกการซื้อได้เลย (เดี๋ยวหลังจากนี้จะจัดบทความเลือกซื้อ MacBook Pro Retina 13 ให้อีกทีครับ)
MacBook Pro Retina 13 เราสามารถสั่งซื้อผ่านทางหน้าเว็บไซต์ Apple Store Online Thailand ได้ทันที โดยจะมีการส่งของในเดือนพฤศจิกายน (ยังไม่กำหนดวันส่งที่แน่นอน) แต่ถ้าใครอยากรอจับตัวจริงเพื่อตัดสินใจ ก็คงต้องรอให้ทางร้าน iStudio นำเข้ามา ซึ่งก็คาดว่าคงภายในเดือนพฤจิกายนนี้จะได้เห็นกันอย่างแน่นอน
iMac 21.5″ & 27″
เป็นอีกผลิตภัณฑ์ที่รอคอยสำหรับ iMac ซึ่งหลายๆ คนที่ต้องการคอมพิวเตอร์ All-in-one แบบตั้งโต๊ะที่มีหน้าจอขนาดใหญ่และประสิทธิภาพการทำงานที่คุ้มค่าและสูงกว่า MacBook Pro โดยมาพร้อมกับขนาดหน้าจอ 21.5 นิ้วที่ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล และขนาดหน้าจอ 27 นิ้วที่ความละเอียด 2650 x 1440 พิกเซลเท่าเดิม กับพาเนลหน้าจอคุณภาพสูง IPS ?ซึ่งให้สีสันที่สดใสคมชัดและสมจริง พร้อมกระจกที่ลดแสงสะท้อนลงไป 75% ทำให้ทำงานง่ายกว่าเดิม?ในส่วนของราคาได้มีการเปิดตัวเริ่มต้นรุ่น 21.5 นิ้วที่ 42,900 บาท และรุ่นเริ่มต้นของ 27 นิ้ว อยู่ที่ 59,900 บาท
ดีไซน์การออกแบบของ iMac นี้ได้มีการเปลี่ยนแปลงไปเล็กน้อย ในส่วนของขอบจอที่บางลงเหลือเพียง 5 มิลลิเมตรเท่านั้น เรียกได้มองผ่านๆ ตัวเครื่องเหมือนจะบางลงไปมาก ซึ่งด้านหลังตัวเครื่อก็ยังนูนปกติแต่ก็จัดได้ว่าบางลงกว่าเดิมไปพอสมควร พร้อมกับสเปกภายในได้อัพเกรดเป็นชิปประมวลผล Intel Core i Gen3 เช่นกัน อย่าง Core i5 Quad-Core?ความเร็วตั้งแต่ 2.9GHz ไปจนถึง 3.2GHz ที่เป็นรุ่นที่ใช้ในคอมพิวเตอร์เดสก์ท็อปซึ่งมีประสิทธิภาพสูงกว่า Core i7 ในโน๊ตบุ๊คเสียอีก
ที่สำคัญกราฟิกการ์ดก็มีให้เลือกใช้งานตามกำลังทรัพย์ทั้งตั้งแต่ NVIDIA GeForce GT 640M,??NVIDIA GeForce GT 650M,??NVIDIA GeForce GTX 660M และ??NVIDIA GeForce GTX 675M ซึ่งทั้งหมดนี้ถือว่าชิปกราฟิกรุ่นใหม่ล่าสุดจาก NVIDIA ทั้งหมดที่มีประสิทธิภาพสูง สำหรับแรมก็จะมีขนาด 8GB เป็นแบบ 4GB จำนวน 2 แถว (แรมเป็นแบบโน้ตบุ๊ดใส่ได้ทั้งหมด 4 แถว) และส่วนฮาร์ดดิสก์นั้นใช้เป็นแบบผสมของ ?HDD+SSD รวมเรียกว่า Fusion Drive ซึ่งจะแบ่งเอาโปรแกรมที่ใช้งานไปไว้ใน SSD ที่มีขนาด 128GB ซึ่งไฟล์งานจะไปอยู่บน HDD ขนาด 1TB อัตโนมัติ ส่วนโปรแกรมไหนที่ยังไม่ได้ใช้ก็จะเก็บไว้ใน HDD แน่นอนว่าส่งผลให้ความเร็วโดยรวมนั้นเพิ่มขึ้นอย่างน่าประทับใจ แต่ก็เป็นกรณีสั่ง iMac แบบพิเศษ ถ้าแบบปกติก็จะมีเพียง HDD ขนาด 1TB ให้เท่านั้น ที่สำคัญยังได้มีการตัด Super Drive ออกไป ซึ่งแน่ว่าส่งผลให้บางลงอย่างควรจะเป็น เมื่อดูประกอบกับสเปกและราคาแล้วก็มีความคุ้มค่ามากๆ เมื่อเทียบกับ iMac รุ่นก่อนหน้า ทำให้ใครหลายคนที่รอสามารถจัดดำเนินการถอยมาได้แบบไม่ต้องคิดอะไรมากนัก
iMac ในชุดจัดจำหน่ายจะให้ Apple Keyboard Bluetooth และ Magic Mouse มาให้ด้วย แต่ ณ เวลานี้เรายังไม่สามารถสั่งซื้อผ่านทางหน้าเว็บไซต์ Apple Store Online Thailand ได้ทันที ซึ่งจะมีการเปิดสั่งได้ในเดือนพฤศจิกายน (ยังไม่กำหนดเปิดสั่งที่แน่นอน) สำหรับรุ่น 21.5 นิ้ว และรุ่น 27 นิ้ว จะเริ่มเปิดสั่งได้ในเดือนธันวาคม ส่วนถ้าใครอยากรอจับตัวจริงเพื่อตัดสินใจ ก็คงต้องรอให้ทางร้าน iStudio นำเข้ามา ซึ่งก็คาดว่าคงภายในเดือนพฤจิกายน-ธันวาคมนี้จะได้เห็นกันอย่างแน่นอน
?Mac Mini
สุดท้ายกับคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะขนาดเล็ก (พกพาได้สบาย) ที่เราสามารถนำไปต่อใช้งานกับมอนิเตอร์อะไรก็ได้อย่าง Mac Mini ก็ได้มีการอัพเกรดสเปกให้มีความเป็นปัจจุบันมากยิ่งขึ้น ที่ในส่วนของชิปประมวลผลเป็น Intel Core i Gen3 ซึ่งมีทั้ง Core i5 และ Core i7 ให้เลือกใช้งาน พร้อมกับแรมติดตั้งมาขนาด 4GB และฮาร์ดดิสก์ความจุ 500GB, 1TB และ 2TB ตามแต่ละรุ่น โดยกราฟิกการ์ดเป็นแบบออนบอร์ด?Intel HD Graphics 4000 เหมือนอย่างใน MacBook Pro Retina 13 แน่นอนว่าได้ติดตั้ง USB 3.0 มาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
สำหรับดีไซน์ตัวเครื่องไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงแต่อย่างใด แต่ก็ได้มีการตัด Super Drive ออกไปเช่นกัน เหมือนกับ MacBook Pro Retina และ iMac รุ่นใหม่ ซึ่งคิดว่าใครอยากลองใช้ Mac OS X แต่ไม่ลงทุนมาก ก็ลองดูเป็น?ตัวเริ่มต้นที่มีราคาเพียง 19,900 บาท?ดูได้นะครับ แต่โดยส่วนตัวแล้วคิดว่าไม่ค่อยคุ้มค่าเท่าไหร่นัก ถ้าให้ดีน่าจะจัด iMac ขนาด 21.5 นิ้วตัวเริ่มต้นไปเลยจะดีกว่า ที่ได้ทั้งความแรงชิปประมวลผลที่มากกว่าและหน้าจอพาเนลคุณภาพสูง IPS ด้วยครับ?
iMac Mini ในชุดจัดจำหน่ายจะไม่มี Apple Keyboard Bluetooth และ Magic Mouse มาให้ เหมือนอย่างที่มีใน iMac แต่อย่างใด โดยเราสามารถสั่งซื้อผ่านทางหน้าเว็บไซต์ Apple Store Online Thailand ได้ทันที?โดยจะมีการส่งของในเดือนพฤศจิกายน (ยังไม่กำหนดวันส่งที่แน่นอน) แต่ถ้าใครอยากรอจับตัวจริงเพื่อตัดสินใจ ก็คงต้องรอให้ทางร้าน iStudio นำเข้ามา ซึ่งก็คาดว่าคงภายในเดือนพฤจิกายนนี้จะได้เห็นกันอย่างแน่นอน
?
เป็นอย่างไรกันบ้างครับกับผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ จาก Apple ทั้งในส่วนของ iPad Mini, iPad with Retina Display, MacBook Pro Retina 13, iMac, Mac Mini ที่เรียกได้ว่าน่าสนใจทั้งนั้นเลย ด้วยวัสดุที่เป็นอะลูมิเนียมแบบ Unibody ทั้งหมดตามสไตล์ Apple รวมไปถึงใน Mac รุ่นใหม่ๆ นี้ ได้มีการตัด Super Drive ออกไปหมดจนเกลี้ยง ที่หากใครจะต้องใช้งานอ่าน – เขียนแผ่น DVD คงต้องต่อไดร์ฟออฟติคอลแยกเอา?
ในส่วนของทางทีมงาน Notebookspec ก็จะรีบจัดหา MacBook Pro Retina 13 มารีวิวกันให้ชมกันอย่างเร็วที่สุด (รวมไปถึงถ้าเป็นไปได้ก็จะพยายามหา iMac รุ่นใหม่นี้มาพรีวิวด้วย) สุดท้ายนี้สำหรับใครที่มีคำถามหรือสงสัยตรงไหน ก็สามารถทิ้งคำถามไว้ได้เลยนะครับ