เกริ่นนำ
มาถึงเครื่องสายตระกูล IdeaPad สุดคุ้มอีกหนึ่งตัว กับ Lenovo IdeaPad S400?แน่นอนว่าเรากำลังพูดถึงยี่ห้อ Lenovo ที่มาแรงแซงทุกโค้งมาหลายโค้งแล้ว และนี่ก็ดูเหมือนจะเป็นอีกโค้งที่ Lenovo เบียดวงในได้อีกครั้ง เพราะมาเหนือคู่แข่งในหลายๆ ด้านด้วยกัน สำหรับเครื่องในตระกูลบางเบาพิเศษ และไม่ได้ตั้งราคาไกลสูงจนปุถุชนคนหาเช้ากินค่ำจะสุดเอื้อม ใส่ความคุ้มค่ามาเต็มทุกเม็ดทุกหน่วย ใครที่หาเครื่องราคาไม่แพงมาก และมีประสิทธิภาพเอาไปใช้ทำงานได้สบายๆ หันมาเหลียวมองเจ้าตัวนี้กันดูก่อน เพราะเชื่อว่าแค่รูปลักษณ์ที่เห็นภายนอก ก็เกินราคาค่าตัวไประดับนึงแล้ว
Lenovo IdeaPad S400 จัดได้ว่าเป็นโน๊ตบุ๊คสายพันธุ์ใหม่ที่มีความบางและเบาใกล้เคียงกับ Ultrabook แต่มีราคาค่าตัวที่ถูกและคุ้มค่ากว่า โดยทาง Lenovo ได้ใช้ชื่อโน๊ตบุ๊คประเภทนี้ว่า Sleek Notebook โดยแบ่งเป็น 2 รุ่นหลักๆ คือ?IdeaPad S300?Sleek Notebook?มาพร้อมหน่วยประมวลอินเทล เพนเทียม (Intel Pentium) และ?IdeaPad S400 Sleek Notebook?มาพร้อมหน่วยประมวลผล?Intel Core i3?และ?i5?พร้อมฮาร์ดดิสก์ที่มีความจุ
IdeaPad S Series?Sleek?Notebook?รองรับระบบปฏิบัติการ?Windows 7?พร้อมอัพเกรดเป็น?Windows 8?ได้เพื่อความสมบูรณ์แบบ อีกทั้ง ระบบทัชแพด ยังถูกออกแบบมารองรับ?Windows 8?โดยเฉพาะ ซึ่งให้ผู้ใช้งานสามารถควบคุ
นอกจากนี้ผู้ใช้ยังสามารถใช้
สเปกภายในเครื่อง
Lenovo IdeaPad S400 กับ Sleek Notebook ขนาดหน้าจอ 14 นิ้วจาก?Lenovo ตัวนี้ มาพร้อมกับสเปก Intel Core i5-3317U แน่นอนว่าเป็นชิป Ivy Bridge ใหม่ล่าสุด ?โดยมีประสิทธิภาพที่เหนือกว่า Lenovo IdeaPad S400 อีกสองรุ่นที่เป็น Core i3 (Sandy Bridge) เปรียบเทียบกับราคาแล้ว ซึ่งแม้ว่าจะราคาจะสูงกว่าตัวที่ชิบชิปประมวลผล Sandy Bridge?แต่ว่าก็เพียงแค่ 3 พันบาทเท่านั้น แลกกับซีพียูตัวใหม่ ก็ถือว่าคุ้มค่ากว่าเดิม ถ้ามีงบที่ตั้งใจจะซื้อที่ระดับราคานี้อยู่แล้ว ก็ลุยได้เลยไม่ต้องรีรอ
นอกเหนือจากนี้ยังมาพร้อมกับกราฟิกการ์ดออนบอร์ดที่มีประสิทธิภาพอย่าง Intel HD4000 และหน่วยความจำแรมขนาด 4GB ที่ถึงแม้ว่าตัวเครื่องจะมีรูปร่างที่บางเบาแต่ก็สามารถอัพเกรดได้เองสูงสุดที่ 8GB ที่สำคัญในส่วนของฮาร์ดดิสก์กํมีขนาดใหญ่ถึง 500GB แถมยังมี SSD ความจุ 24GB ติดตั้งมาให้ด้วย ไว้สำหรับทำหน้าที่เป็นทางผ่านของการรับส่งข้อมูล เพื่อให้ประสิทธิภาพโดยรวมของเครื่องดีกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไป?ด้านของการเชื่อมต่อก็ครบครันทั้ง USB 3.0, USB 2.0, Bluetooth, WiFi, LAN ที่ถึงแม้จะไม่มีไดร์ฟ DVD แต่ก็เป็นปกติของโน๊ตบุ๊คประเภทบางเบา สำหรับ?Lenovo IdeaPad S Series ที่เป็น Sleek Notebook ยังมีการแบ่งออกเป็นรุ่นต่างๆ ดังต่อไปนี้
IdeaPad S300 Sleek Notebook?วางจำหน่ายในราคาเริ่มต้นที่ 13,990 บาท (รวมภาษีแล้ว)
IdeaPad S400 Sleek?Notebook?วางจำหน่ายในราคาเริ่มต้นที่ 15,990 บาท (รวมภาษีแล้ว)
ตัวเครื่องและการออกแบบ
Lenovo IdeaPad S300 Sleek Notebook?และ?IdeaPad S400 Sleek Notebook??ดีไซน์ความบางเฉียบที่ไม่ถึง 1 นิ้วและน้ำหนักน้อยกว่า 1.8 กิโลกรัม ถูกออกแบบด้วยพื้นผิวเมทาลิคสี
ภายนอกตัวเครื่องของ Lenovo IdeaPad S400?ตัวนี้ ดูเรียบหรูกว่าราคาค่าตัวอยู่พอสมควรเลยทีเดียว เป็นการออกแบบที่เรียบๆ ไม่มีลวดลายอะไรมาก แม้ว่าวัสดุที่ใช้นั้น จะไม่ได้หรูหราอย่างโลหะ อลูมิเนียม หรือว่าคาร์บอนไฟเบอร์ก็ตาม แต่ก็ถือว่าเป็นพลาสติกที่มีความแข็งแรงและยืดหยุ่นในระดับที่ดีทีเดียว ส่วนดีไซน์โดยรวมนั้นถือว่ามีความใกล้เคียงและมีทิศทางไปทางเดียวกับในส่วน Ultrabook ของทาง Lenovo เอง ซึ่งดูแล้วก็มีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นพอสมควร
เข้ามาที่โลโก้ระยะใกล้ ก็เป็นตำแหน่งที่ Lenovo จะใช้เป็นประจำอยู่แล้วในการวางสัญลักษณ์ทางการค้าของตัวเองนี้ และก็เป็นรูปแบบสีเงินเงาวับเช่นเดิม นอกจากนั้นสีของตัวเครื่องเองก็ยังมีให้เลือกด้วย ทั้งสีเงิน และสีแดง สำหรับใครชอบเรียบหรูดูดี หรือฉูดฉาดบอกความมีสไตล์ ก็ให้ตัวเลือกมารองรับทั้งสองแบบ โดยในส่วนของพื้นผิวฝาหลังจะมีลักษณ์ซอฟต์ทัช อารมณ์คล้ายๆ กับพื้นผิวของ Lenovo ThinkPad เหมือนกัน
มองจากด้านข้างก็ยังสวยงามดูดีในแบบเรียบๆ ให้ความรู้สึกที่สวยแบบเรียบง่ายตามกระแสนิยมในปัจจุบัน ซึ่งดูแล้วบางเบากว่าเครื่องโน๊ตบุ๊คปกติทั่วๆ ไป ส่วนที่หนาที่สุดของตัวเครื่องก็จะเป็นบริเวณที่เก็บแบตเตอรี่ ที่ใช้เป็นรูปร่างทรงกลม?สำหรับแกนบานพับของตัวเครื่อง จะเป็นแบบเขี้ยวสองข้าง ตำแหน่งในการล็อคบานพับก็แน่นพอประมาณ แต่ก็ยังมีการสั่นไหวของหน้าจออยู่บ้างนิดหน่อยเวลาที่มีการขยับตัวเครื่อง?แต่สำหรับการใช้งานจริงก็ไม่เป็นปัญหาแต่อย่างใด
? ???
รูปลักษณ์เมื่อเปิดตัวเครื่องขึ้นมา เราก็จะเจอกับหน้าตาอันคุ้นเคยสำหรับแฟนๆ Lenovo หรือชาว NBS ที่ได้เห็นเรารีวิวเครื่องโน๊ตบุ๊คจาก Lenovo กันมาหลายครั้งหลายคราแล้ว?ไล่จากหัวด้านบนลงมาก่อนเลย กับกล้องเว็บแคมที่มีมาให้ในตัวแบบ HD ให้การคุย Video Call คมชัด จะได้นำเสนอหน้าของเราให้เพื่อน หรือญาติพี่น้องเห็นได้แบบเต็มอารมณ์กันไปเลย?เลื่อนลงมาที่ขอบด้านล่างก็แน่นอนว่าต้องเป็นโลโก้สีเงินของคำว่า Lenovo อันสวยงามเป็นเอกลักษณ?์ พร้อมๆ ไปกับยางรองฝาหน้าจอกับตัวเครื่อง เพื่อป้องกันไม่ให้กระทบกันจนเป็นรอยจากการเปิดปิดใช้งาน?
ในส่วนของตัวเครื่องด้านล่างก็มาพร้อมกับแผงคีย์บอร์ดหน้าตาที่คุ้นเคยกันเป็นอย่างดีสำหรับผลิตภัณฑ์ปี 2012 นี้ โดยปุ่มหน้าตาแบบนี้ก็เป็นรูปแบบที่ Lenovo เรียกว่า Accu Type ที่บอกว่าช่วยให้สามารถพิมพ์ได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ ที่มีการผิดพลาดน้อยเพราะมีระยะห่างระหว่างตัวปุ่ม และมีช่วงโค้งด้านล่างที่รองรับเข้ากับนิ้วมือได้เป็นอย่างดี ซึ่งการใช้งานก็เรียกได้ว่าตอบสนองได้เป็นอย่างดีไม่แพ้โน๊ตบุ๊ค Lenovo รุ่นพี่ตัวอื่นๆ ส่วนแผ่นทัชแพดที่มีการออกแบบมาให้เป็นชิ้นเดียวกันทั้งแผ่น และซ่อนปุ่มเอาไว้ด้านใต้ทั้งที่มุมซ้ายและขวาล่าง สำหรับการคลิกชวาและคลิกซ้าย?
ที่นอกจากจะได้ความสวยงาม ประกอบไปกับการใช้งานที่ดีด้วยขนาดที่ใหญ่แล้ว มันยังมาพร้อมฟีเจอร์ที่รองรับการสั่งงานด้วยนิ้วพร้อมกันได้มากสูงสุดถึง 4 นิ้ว ส่วนตรงกลางเลื่อนมาทางขอบด้านล่าง จะมีเส้นสีขาวๆ บอกกั้นตำแหน่งของบริเวณปุ่มทั้งสองข้างเอาไว้ ในเรื่องของผิวสัมผัสก็จัดได้ว่ามีความลื่นไหล แต่บางครั้งก็ทัชไม่ติดมือ ส่งผลในการใช้งานจริงมีโอกาสติดขัดเล็กน้อย แต่หากใครใช้เมาส์เป็นหลักอยู่แล้ว คงจะไม่ได้เป็นปัญหาอะไร
ที่ขอบตัวเครื่องด้านซ้ายบนก็จะมีปุ่ม เปิด/ปิดเครื่อง ทรงกลม ที่มีการเจาะรูให้เป็นรูปสัญลักษณ์ Power ให้ไฟที่อยู่ใต้ปุ่มสามารถส่องทะลุรอดขึ้นมาได้ เพื่อให้เห็นสถานะการทำงานอย่างขัดเจน ถ้าเปิดเครื่องก็จะเป็นไฟสีขาวนิ่งค้าง แต่ถ้าเป็นในโหมด sleep ก็จะเป็นไฟสีขาวกระพริบ ที่ตรงนี้ถือได้ว่ามีความใกล้เคียงกับ Ultrabook ของทาง Lenovo ที่เคยมีมา
ที่ด้านขอบตัวเครื่องทางขวาล่าง ก็จะมีไฟบอกสถานะอีก 2 ดวง สำหรับแสดง Power สถานะการทำงานของตัวเครื่องที่ด้านซ้าย และไฟบอกสถานะการทำงานของแบตเตอรี่ที่ด้านขวา ซึ่งสีขาวจะหมายถึงว่าแบตเตอรี่มีประจุไฟเต็มแล้ว แต่ถ้าเป็นสีส้มก็คือกำลังทำการชาร์จไฟเข้าอยู่นั่นเอง พร้อมกับโลโก้ซีรีย์ ideapad ที่บ่งบอกถึงตัวตน
หงายเครื่องมาดูทางด้านล่างกันบ้าง ยางรองใต้ตัวเครื่องของ Lenovo IdeaPad S400?นี้ค่อนข้างจะใหญ่และดูหนาทีเดียว น่าจะช่วยเรื่องความทนทานในการใช้งานระยะยาวได้ดีพอสมควร เพราะปกติแล้วเครื่องส่วนใหญ่มักมีอาการยางรองใต้ตัวเครื่องหลุดหายเป็นประจำ ทำให้เกิดรอยได้ง่ายเวลาเอาไปใช้งานบนพื้นที่ไม่ค่อยเรียบ หรือทำให้เครื่องตั้งไม่นิ่ง เพราะมีการกระโดกกระเดกจากยางรองที่ไม่เท่ากันในแต่ละมุม?ตรงกลางของตัวเครื่องก็จะมีช่องสำหรับดูดให้ลมเข้าเป็นแถวยาวเรียงกันอยู่สองแถว เพื่อให้มีอากาศเย็นเข้าไปถ่ายเถความร้อนภายในที่เกิดจากการทำงานของซีพียู และการ์ดจอในตัวเครื่อง และถ่ายเทลมร้อนออกไปทางด้านซ้ายข้างตัวเครื่อง
ทางด้านมุมด้านล่างใกล้กับยางรองตัวเครื่อง ก็จะเป็นช่องลำโพง ที่เป็นการออกแบบให้ยิงเสียงลงไปที่พื้นด้านล่างของตัวเครื่อง แล้วสะท้อนกลับขึ้นมาที่ด้านหน้าของผู้ใช้งาน และผสมกับเทคโนโลยีเสียงจาก Dolby ที่ใส่มาให้ด้วย จากที่ทดลองฟังนั้น ก็ให้ความรู้สึกรอบทิศทางแบบจำลองได้ดีพอสมควรเลย อีกทั้งในส่วนของฝาหลังของเครื่องเรายังสามารถแกะเองเพื่ออัพเกรดแรมและฮาร์ดดิสก์ได้ แต่ก็จำเป็นต้องใช้ความระมัดระวังซักเล็กน้อย
สำหรับแบตเตอรี่นั้นจะใส่มาเป็นแบบ 32 วัตต์ชั่วโมง ความจุทั้งหมด 2200mAh ก็เป็นความจุไม่เยอะมากสักเท่าไหร่ แต่ก็สามารถช่วยให้ใช้งานได้นานประมาณเกือบ 2 ?ชั่วโมง
พอร์ตการเชื่อมต่อ
ทางด้านซ้ายของตัวเครื่องก็จะมีปุ่มสำหรับการ Restore ซอฟท์แวร์ระบบในเครื่อง ซึ่งมีชื่อปุ่มว่า OneKey Recovery ถัดมาก็จะเป็นตระแกรงลมระบายความร้อนออก ต่อด้วยช่องต่อ Ethernet หรือสาย LAN ที่จะเป็นแบบฝาปิดสปริง เมื่อไม่ได้ช้งานก็จะเก็บตัวเองปิดช่องเอาไว้ ต่อมาเป็นช่อง HDMI และ USB ที่เป็นเวอร์ชั่น 3.0 ความเร็วสูง สังเกตได้ไม่ยากจากพลาสติกสีฟ้าภายใน
ทางด้านขวาก็จะมีช่องอ่านการ์ด SD ที่ขาดไปไม่ได้ในเครื่องโน๊ตบุ๊คทุกวันนี้ ตามมาด้วยช่องต่อหูฟัง USB 2.0 มีมาให้สองช่องเรียงกัน และช่องสำหรับต่อสายไฟจ่ายพลังงานเข้าเครื่อง
ขนาด, น้ำหนักและอุณหภูมิ
หันตัวเครื่องมาดูทางแนวนอนกันบ้าง จะเห็นความบางของตัวเครื่องได้อย่างชัดเจน มุมแรกนี้ก็จะเป็นการมองจากด้านแกนข้อพับ จะเห็นเขี้ยวของแกในบานพับที่สุดปลายทั้งสองด้านอย่างชัดเจน มีความกว้างและหนาของตัวเขี้ยวเกนในระดับที่พอดี เพื่อไม่ให้หลุดหรือหักง่าย พร้อมกับส่วนโค้งตรงกลาง ที่จะเป็นพื้นที่สำหรับเก็บแบตเตอรี่
ส่วนทางด้านหน้าก็จะให้ความรู้สึกที่บางลงไปมากกว่าเดิมอีก ด้วยทรงที่จะคล้ายกับลิ่ม หน้าจากทางด้านหลัง เรียวบางลงไปที่ด้านหน้า ก็จะให้มุมมองภาพอย่างที่เห็นด้านบนนี้
ความบางของตัวเครื่องนั้นก็ถือว่าบางในระดับที่พกพาได้สะดวกขึ้นเยอะมาก เมื่อเทียบกับเครื่องโน๊ตบุ๊คทั่วไป ที่มักจะมีความหนากมากกว่านี้ แม้ว่าจะไม่ได้บางขนาดเครื่อง Ultrabook แต่ก็ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ใกล้เคียงที่สุดตัวนึง และเมื่อเอามาเทียบกับกล่อง DVD ก็จะหนากว่าอยู่นิดหน่อยเท่านั้นเอง เรียกได้ว่าให้ความสะดวกสบายในการพกพามากๆ
ส่วนขนาดเมื่อเทียบกับนิตยสาร ก็ใหญ่กว่าขึ้นมา ก็ถือว่าอยู่ในขนาดปกติของโน๊ตบุ๊คขนาดจอ 14 ?นิ้ว?น้ำหนักตัวที่ช่างได้จากตัวเครื่องพร้อมแบตเตอรี่ ได้อยู่ที่ 1.6 กิโลกรัมเท่านั้น และถ้ารวมเข้ากับตัวก้อนอแดปเตอร์จ่ายไฟเข้าไปด้วยก็จะเพิ่มมาอีกประมาณ 200 กว่ากรัม ซึ่งช่วยให้สามารถพกพาได้สะดวกสบาย คล่องตัวกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วๆ ไปที่มักจะหนักอยู่ที่ประมาณ 2.3-2.5 กิโลกรัม
ด้านอุณหภูมิตัวเครื่องตามตำแน่งต่างๆ ของ Lenovo IdeaPad S400?ที่เกิดขึ้นจากการทำงานในสภาพ 100% เริ่มกันตั้งแต่ตรงกลางของตัวเครื่องกันก่อน ใช้เครื่องวัดชี้จุดไปยังกลางแผงคีย์บอร์ดของตัวเครื่อง จากในรูปด้านซ้ายบนนี้ ก็จะอยู่ที่ประมาณ 40 องศาเซลเซียส ถือว่าทำออกมาได้ในระดับที่ดีเลย เพราะกับเครื่องโน๊ตบุ๊คบางเครื่องนั้น บริเวณนี้บางครั้งจะร้อนกว่านี้มาก ตามมาด้วยแผงทัชแพดในรูปด้านขวา ก็จะอยู่ที่ 33 องศาเซลเซียส ถือว่าเป็นปกติในระดับทั่วๆ ไปที่จะอยู่ในช่วง 30 ต้นๆ
ย้ายไปดูในจุดอื่นเพิ่มเติมกันบ้าง ที่บริเวณที่พักข้อมือ ซึ่งถือว่าเป็นตำแหน่งที่เคร่ื่องหลายๆ เครื่อง มีปัญหากันมาโดยตลอด เพราะว่าเป็นจุดที่ผู้ใช้จะสัมผัสค่อนข้างบ่อย และเป็นระยะเวลายาวนานตลอดการใช้งานเคร่ื่อง ก็จะทำให้รู้สึกถึงอุณถูมิความร้อนได้ง่าย แต่ว่าจากที่เราวัด Lenovo IdeaPad S400?ตัวนี้ ทำออกมาได้ดีมาก อยู่ที่ 31 องศาเซลเซียส เป็นอุณหภูมิที่ต่ำสุดที่เราวัดได้จากตัวเครื่องอีกด้วย เรียกได้ว่าเอาไปใช้งานวางมือกันได้ตามสะดวก ไม่มีความร้อนแผ่ออกมาแน่นอน ต่อมาในจุดที่น่าจะเป็นจุดที่ร้อนที่สุดของตัวเครื่อง คือที่บริเวณช่องระบายอากาศออกทางด้านซ้าย ก็เป็นอย่างที่คาดเดา เพราะร้อนที่สุดในบรรดาทุกจุดที่เราได้ทำการวัดมา แต่ถึงอย่างนั้น ก็ยังมีอุณภูมิอยู่แค่ที่ระดับ 45 องศาเซลเซียสเท่านั้น จัดได้ว่าในเรื่องของอุณหภูมิที่ออกมาจากตัวเครื่องนั้น?Lenovo IdeaPad S400 สามารถทำได้เป็นอย่างดีครับ
ทดสอบโปรแกรม
Windows Score
ตัวระบบ Windows ที่ลงมาให้กับเครื่องนั้น เป็น Windows 7 เวอร์ชั่น Home Basic ดังนั้นอาจจะขาดหน้าตาแบบ Aero ที่สวยงามไปเล็กน้อย แต่ว่าการทำงานอื่นๆก็สามารถทำได้เหมือนกันไม่แตกต่าง คะแนนจากการทดสอบด้วยตัว Windows เองนั้น ทำออกมาได้ที่ 4.9 คะแนน ส่วนที่รั้งคะแนนเอาไว้ก็ยังคงเป็นเจ้าชิปกราฟฟิก Intel HD Graphics 4000 ตัวเดิม แต่แม้ว่าจะเป็นชิป 4000 แต่ว่าคะแนนที่ Windows ให้ออกมานั้น จะไม่ได้เท่ากับชิป 4000?
CPU-Z?
ยืนยันด้วย CPU-Z อีกที กับ CPU Intel Core i5-3317U ความเร็ว 1.70GHz จาก Intel ?มาพร้อม 2 core และ 4 thread ค่า TDP สูงสุดอยู่ที่ 17 วัตต์ ด้วยความที่เป็นรหัส U ดังนั้นมั่นใจได้ในเรื่องการประหยัดพลังงาน
Hyper PI
ระยะเวลาที่ทำออกมาได้จาก ?Hyper PI ไม่ได้มากมายอะไร แต่ถ้าเป็นเครื่องเบาขนาดนี้ ราคาเท่านี้ ตัวนี้แรงคุ้มสุดแล้ว
CINEBENCH R 11.5
สำหรับ CINEBENCH ก็อยู่ระดับกลางๆ เปรียบเทียบกับ CPU ที่เป็นรหัส U ด้วยกันแล้ว ก็ทำได้ดี
LinX
ยืนยันประสิทธิภาพกันด้วยอีกหนึ่งโปรแกรมกับ LinX 0.6.4 รันความเร็ว GFlops ได้สูงสุดที่ระดับ 28 เลย
GPU-Z
สำหรับตัวใหม่นี้ จะเปลี่ยนถอดเอาตัวการ์ดจอแยกเก่าอย่าง AMD Radeon HD 7450M ออกไปเลย แล้วใป็น HD Graphics 4000 ตัวเดียวเพียวๆจาก Intel ซึ่งระดับประสิทธิภาพนั้นก็ทำได้ดีกว่าของเดิม
3DMark 06
ประสิทธิภาพก็จะเหมือนกันกับที่เคยได้เห็นมานักต่อนักแล้ว ไม่ได้แตกต่างอะไรมากมาย
3DMark 11
สำหรับการทดสอบประสิทธิภาพกราฟฟิกในแบบ DirectX 11 จาก 3DMark 11 ก็ได้ตามรูปด้านบนนี้ ยังคงแนะนำเหมือนเช่นเคย ว่าสามารถเอาไปเล่นเกมได้ แต่ไม่ใช่เกมระดับหนักมากอย่างพวกราฟิกสมจริงสูงๆ ถ้าจะเล่นเกมก็อาจจะต้องเพิ่มงบประมาณ? และไปมองตัวอื่น
HD Tune Pro
สำหรับการบันทุกข้อมูล ก็จะเป็นฮาร์ดดิสก์ แต่ว่าเป็นแบบไฮบริด ที่มีชิป SSD ฝังเข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพด้วย โดยใช้ชิปของ SanDisk ขนาด 24GB ส่วนฮาร์ดดิสก์หลักนั้น จะเป็นของ WD ความจุ 500GB
CrystalDiskMark
?ทดสอบด้วยโปรแกรม CrystalDiskMark อีกหนึ่งตัว
PerformanceTest
สำหรับการทดสอบประสิทธิภาพโดยรวมของตัวเครื่อง ด้วยโปรแกรม PerformanceTest ก็ได้มาที่ 1199.3 คะแนน อาจจะน้อยนิดว่าที่เคยทดสอบมาเล็กน้อย แต่ว่าไม่ถือว่าแตกต่างชัด อยู่ระดับกลุ่มเดียวกัน
สรุปปิดท้ายรีวิว
คำจำกัดความของ Lenovo IdeaPad S400?ตัวนี้ ซึ่งถือได้ว่าเป็น Sleek Notebook ขนาดหน้าจอ 14 นิ้ว ที่มาพร้อมกับสเปก Inte Core i5 คงไม่มีอะไรจะดีมากกว่าไปกว่าคำว่าคุ้มค่าเงิน และความสะดวกสบายในการใช้งาน ที่ถือว่าเป็นจุดที่คนใช้เครื่องโน๊ตบุ๊คทุกคนต่างมองเป็นประเด็นหลักแรกที่ต้องเลือกดู เวลาเลือกซื้อเครื่องทั้งนั้น เพราะสเปกที่ได้จากเครื่องตัวนี้ เพียงพอเอาไปใช้งานได้สบายๆ และยังถือว่าแรงเหลือเฟือ สำหรับราคาที่ตั้งเอาไว้ที่ระดับ 2 หมื่นบาทต้นๆ (หรือ Lenovo IdeaPad S Series รุ่นอื่นๆ จะถูกกว่านี้อีก)
ตามมาด้วยเรื่องความบางเบา ที่แม้ว่าจะไม่ได้เทียบชั้นขนาด Ultrabook แต่ก็ใกล้เคียง น้ำหนักตัวนั้นต่ำกว่าระดับ 2 กิโลกรัม เปรียบเทียบกับโน๊ตบุ๊คขนาดปกติทั่วๆ ไป ที่มันจะมีขนาดตัวหนาและน้ำหนักมากกว่า 2 กิโลกรัมแล้ว ถือว่าช่วยให้การพกพานำไปใช้งานนอกสถานที่คล่องตัวมากยิ่งขึ้น การออกแบบตัวเครื่องที่ดูจะเรียบๆ น้อยๆ แต่ให้ความรู้สึกถึงความมีสไตล์ สิ่งที่อาจจะมีให้ได้ไม่มากก็คงจะเป็นเรื่องของวัสดุที่ใช้เป็นพลาสติก ไม่ได้มีวัสดุชั้นดีอะไรมาเป็นจุดขายมากนักเท่านั้น
ถ้างบประมาณในกระเป๋าที่มีอยู่ในตอนนี้ ไม่ได้มากมายอะไรนัก บวกกับการใช้งานที่ก็ไม่ได้เอานั่งเล่นเกมกันแบบโหดๆ ส่วนใหญ่นั่งใช้โซเชียลเน็ตเวิร์ก หรือว่าทำงาน Office ต่างๆ นั้น เครื่องตัวนี้สามารถทำงานที่ว่ามาได้ทั้งหมด และการพกพาเครื่องขนาดใหญ่ที่มีความหนา พร้อมกับน้ำหนักที่ระดับ 2 กิโลกว่าๆ เป็นเรื่องที่ไม่น่าพิศมัยด้วยแล้วล่ะก็ Lenovo IdeaPad S400?ตัวนี้ก็พร้อมตอบโจทย์ ทำงานได้ บาง เบา กว่าเครื่องทั่วไป และราคาไม่แพงอีกด้วยครับ
ราคาและสเปกเต็มๆ ของ?Lenovo IdeaPad S Series
IdeaPad S300 Sleek Notebook?วางจำหน่ายในราคาเริ่มต้นที่ 13,990 บาท (รวมภาษีแล้ว)
IdeaPad S400 Sleek?Notebook?วางจำหน่ายในราคาเริ่มต้นที่ 15,990 บาท (รวมภาษีแล้ว)
จุดเด่น
- เป็น?Sleek Notebook ที่ตัวเครื่องบางไม่ถึง 1 นิ้ว และน้ำหนักเบาเพียง 1.8 กิโลกรัม
- สเปกเครื่องภายในให้มามีคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
- เปิดปิดและ Wake Up เครื่องได้อย่างรวดเร็วด้วย SSD ขนาด 24GB
- สไตล์การออกแบบที่เรียบหรู ประยุกต์จากตระกูล Ultrabook มาเลย
- มีสีให้เลือก 2 สี คือ แดง และ เงิน
- ทัชแพดรองรับการสั่งงานได้มากถึง 4 นิ้ว
- คีย์บอร์ดตอบสนองการใช้งานได้เป็นอย่างดี
- สามารถอัพเกรดแรมและฮาร์ดดิสก์เองได้
- Smart Update ช่วยอัพเดทข้อมูลต่างๆ แม้ว่าจะ Sleep เครื่องอยู่
ข้อสังเกต
- ช่องต่อสาย Ethernet แบบปากหนีบ ใส่ค่อนข้างยากเล็กน้อย
- การตอบสนองของทัชแพดไม่ค่อยลื่นไหลเท่าใดนัก
- แบตเตอรี่ให้ความจุมาน้อยไปหน่อย
Award
โดยในครั้งนี้จะเป็นการเปรียบเทียบการให้รางวัลกับเครื่องในกลุ่มของโน๊ตบุ๊คขนาดหน้าจอ 14 นิ้วด้วยกัน ซึ่ง?Lenovo IdeaPad S400?ก็ได้รางวัลต่างๆ ดังนี้
Best Design
Lenovo IdeaPad S400 จัดว่าเป็นโน๊ตบุ๊คราคาไม่แพงที่มีรูปทรงการออกแบบเรียบหรู ดูดี และโฉบเฉี่ยวกว่าโน๊ตบุ๊คในระดับเดียวกัน ราคาช่วงเดียวกัน เพราะถ้าใครที่เคยได้เห็นโน๊ตบุ๊คจาก Lenovo อย่างพวกตระกูล U ที่เป็นเครื่อง Ultrabook ก็จะทราบทันทีว่าถอดหลักการออกแบบมาจากกันเลยทีเดียว ส่งผลให้?Lenovo IdeaPad S400 เป็นโน๊ตบุ๊คที่มีความเป็นเอกลักษณ์โดดเด่นพอสมควร
Best Mobility
ด้วยความที่ Lenovo IdeaPad S400 เป็น Sleek Notebook?สำหรับความบางเบาที่ได้ ถึงแม้ว่ามันจะไม่ได้บางเบาไปเทียบเท่ากับเครื่องที่เป็น Ultrabook นั่นก็เพราะเครื่องนี้ไม่ใช่เครื่องที่ออกแบบมาตามสเปกนั้น แต่มันก็เป็นเครื่องในสาย Ultraslim ที่ให้ความบาง และเบาที่มากกว่าเครื่องโน๊ตบุ๊คทั่วๆ ไป พร้อมกับประสิทธิภาพที่มีมาสมน้ำสมเนื้อ
Best Technology
ตามมาด้วยอีกหนึ่งรางวัล นั่นก็คือ Best technology แม้ว่าจะเป็นเครื่องที่มาคาค่าตัวไม่ได้แพงมากมายอะไร แต่เราก็ต้องมอบรางวัลนี้ให้จากเทคโนโลยีที่ไม่เห็นในเครื่องคู่แข่งรายอื่นๆเลย อย่างฟีเจอร์ Smart Update ที่ช่วยให้เราสามารถอัพเดทข้อมูลต่างๆ ในตัวเครื่อง ไม่ว่าจะเป็น แช็ท, อีเมล หรือแม้แต่ Facebook ได้ โดยที่ตัวเครื่องจำเป็นต้องทำงานในหน้าหลักอยู่ เพียงแค่เรา Sleep เครื่องเอาไว้ ทุกอย่างก็จะถูกอัพเดทเองแบบอัตโนมัติเลย
Best Value
และนี่คือรางวัลที่ไม่มอบให้ก็คงจะไม่ได้ เพราะว่าด้วยราคาค่าตัวเครื่องที่ระดับ 2 หมื่นบาทนิดๆ นี้ (หรือในรุ่น Lenovo IdeaPad S Series อื่นๆ ราคาจะถูกกว่านี้อีก) เราจะได้ตั้งแต่ความสะดวกในการพกพาจากน้ำหนักที่เบา ตัวเครื่องที่มีความบาง พกพาได้อย่างสะดวกสบายง่ายดาย และมาพร้อมกับสเป็กที่เครื่องระดับเดียวกันของคู่แข่งอื่นๆ ไม่มีให้ พร้อมกับเทคโนโลยีที่น่าสนใจ ทำให้ในเรื่องของความคุ้มค่านั้นไม่เป็นรองใครอย่างแน่นอน
ขอขอบคุณ?Lenovo?สำหรับตัวเครื่องในการทดสอบ