Elecom M-IR03DR IR LED Mouse ราคา 1,390 บาท
สวัสดีครับ กลับมาพบกับรีวิวอุปกรณ์เสริมการใช้งานเครื่องโน๊ตบุ๊คดีๆ กับทีมงาน Notebookspec กันอีกครั้ง และเหมือนเช่นเคยที่เราจะต้องสรรหาอะไรมานำเสนอ เพื่อให้ผู้่อ่านทุกท่านได้เห็นอุปกรณ์แต่ละชิ้น ว่ามันจะสามารถทำอะไรได้บ้าง ก่อนที่จะเสียเงินให้กับมัน และในครั้งนี้เราก็ได้นำเอาเมาส์ ที่หลายคนขาดไม่ได้เลยกับอุปกรณ์ตัวนี้มารีวิวกันอีกครั้ง แต่ว่าเป็นยี่ห้อที่เราอาจจะยังไม่ค่อยจะได้คุ้นหู หรือคุ้นมือกันนัก กับยี่ห้อที่มีสโลแกนว่าเป็น Accesssory เบอร์หนึ่งจากประเทศญี่ปุ่นกันเลยทีเดียว และยี่ห้อที่ว่านี้ก็คือ Elecom นั่นเอง
สำหรับเมาส์ตัวนี้ ไม่ได้เป็นเมาส์เหมือนกับยี่ห้ออื่นๆ ทั่วไปที่เราเห็นกัน โดยมันมีเทคโนโลยีที่น่าสนใจใส่มาด้วย เป็นเทคโนโลยีของการตรวจจับพื้นผิว ที่มีการใช้หลอดไฟส่องแสงอินฟาเรด หรือ IR ที่เราไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า พอบอกว่าเป็นอินฟาเรดปุ๊ป หลายคนน่าจะร้องอ๋อกันขึ้นมาทันที ใช่แล้ว มันเป็นเทคโนโลยีเดียวกันกับที่เราใช้งานในเครื่องมือถือ หรือรีโมทย์ควบคุมเครื่องเล่นต่างๆ นั่นเอง โดยข้อดีของเจ้าเทคโนโลยีตัวนี้ ?Elecom ก็บอกว่ามันจะสามารถช่วยประหยัดพลังงาน ให้มีการใช้งานจากพลังงานในก้อนแบตเตอรี่ หรือถ่านเดิมๆ ที่เราใช้งานกันอยู่ได้ยาวนานมากขึ้น โดยระบุเอาในสเป็กว่าสามารถใช้งานได้นานราว 3 ปีครึ่งเลยทีเดียว
ที่ตัวกล่องก็ระบุเอาไว้อย่างชัดเจนตัวเป้งๆ ว่าเป็นเมาส์ไร้สาย ใช้คลื่นความถี่ 2.4GHz ในการส่งข้อมูล และใช้เทคโนโลยีอินฟาเรด IR
มาเปิดดูตัวเมาส์จริงๆ กันบ้าง เรียกได้ว่าสวยงามใช้ได้เลยทีเดียว รูปทรงมีดีไซน์ที่ดูเรียบง่าย แต่ออกแนวทันสมัย ไม่มีอะไรรกเยอะแยะ ผิวด้านบนนั้นจะเป็นผิวเรียบด้าน ไม่เงา พื้นสีเทา ตรงกลางด้านบนนั้นจะเป็นตำแหน่งของวงล้อ scroll ที่ใช้สำหรับเลื่อนดูหน้าเว็บ หรือเอกสารต่างๆ พร้อมกับสามารถใช้กดเป็นปุ่มกลางไปด้วยในตัว ที่มีฟีเจอร์พิเศษ สามารถปรับความลื่นไหลได้ 2 แบบด้วย คือแบบลื่นยาว สามารถหมุนแรงๆเพื่อเลื่อนหน้าเอกสารยาวๆ ได้ในเวลาเพียงนิดเดียวเท่านั้น หรือจะเป็นรูปแบบปกติที่จะมีเสียงแก็กๆ พร้อมกับการกระตุกให้เรารู้ว่าเลื่อนไปกี่จังหวะแล้ว ส่วนที่ขอบทางด้านขวาจะมีตัวหนังสือโลโก้ยี่ห้อชัดเจน และข้อความบ่งบอกเทคโนโลยีที่ใช้ใสตัวเมาส์
หมุนมาดูทางด้านซ้าย เราก็จะเจอปุ่มอีก 2 ปุ่ม ตรงบริเวณเหนือที่พักนิ้วโป้งพอดี จากการจับด้วยมือขวา ทำให้การกดปุ่มพิเศษเพิ่มอีก 2 ปุ่มนี้ สามารถทำได้สะดวก จากนิ้วโป้งของเรา สำหรับประโยชน์การใช้งานของเจ้า 2 ปุ่มนี้ ก็คือการใช้สำหรับกดเปลี่ยนหน้าไปหน้าต่อไป (Next) หรือว่าย้อนกลับไปหน้าที่แล้ว (Back) ยกตัวอย่างการใช้งานที่เราใช้งานกันบ่อยๆ ?อย่างเช่นกันท่องเว็บไซต์ ที่เรามักจะต้องกดปุ่มลูกศรทางด้านซ้ายมือบนกันเป็นประจำ สำหรับเลื่อนไปหน้าต่อไป หรือกลับไปหน้าก่อนหน้า รวมปุ่มเข้าด้วยกันทั้งหมด เมาส์ตัวนี้ก็จะมีด้วยกันทั้งหมด 5 ปุ่ม
และยิ่งถ้าใครใช้เครื่อง MacBook ของ Apple อยู่ล่ะก็ ดีไซน์นั้นสามารถเข้ากันได้แบบสุด อย่างกับเป็นเมาส์ที่มากับตัวเครื่องเลยทีเดียว ด้วยสีเทาเงินแบบอลูมิเนียม ตัดกับดำด้าน เหมือนกันกับตัวเครื่อง MacBook ของ Apple เป๊ะ
การใช้งานจับถือ ก็เข้ารูปมือกับชับดี ตัวเมาส์เป็นทรงผอมยาว ใครที่นิ้วยาวๆ มือใหญ่ๆ น่าจะชอบกันดีนักแล แต่ถ้าเป็นคนมือกว้างๆ อาจจะไม่ค่อยรับเต็มมือสักเท่าไหร่นัก แต่ก็เป็นการเว้นที่ไว้ให้การกดปุ่มพิเศษที่บริเวณนิ้วโป้งได้อย่างลงตัวพอดี
พลิกขึ้นมาดูที่ด้านล่างบ้าง จะสังเกตเห็นได้อย่างชัดเจนเลย ว่าตรงบริเวณที่เป็นสีดำนั้น พื้นผิวจะเป็นลักษณะเคลือบแบบ Soft Touch เหมือนกับยาง ซึ่งเป็นทรงขึ้นรูปสูงขึ้นมาที่ด้านข้างตัวเมาส์ ตำแหน่งของนิ้วโป้งที่ด้านข้าง ทำให้กันการลื่นไหลได้ดี นอกจากนั้นก็จะเป็นสวิทช์ ที่มีด้วยกันทั้งหมด 3 ปุ่ม แบ่งเป็นอันแรกคือ ตัวที่มีสัญลักษณ์เหมือนตัว C และวงกลมจุดๆล้อรอบ ทางด้านซ้ายในรูป คือปุ่มสวิทช์เลื่อน สำหรับปรับความลื่นไหลของวงล้อ scroll ถัดมาที่กลางตัวเมาส์ จะเป็นปุ่มยางกลมๆ ใช้สำหรับปรับระดับความละเอียดของเซ็นเซอร์ตรวจจับพื้นผิว โดยสลับได้ 2 รับดับ คือ 800 และ 1600 DPI สุดท้ายสวิทช์เลื่อนอีกตัว ก็คือสวิทช์เปิดปิดนั่นเอง
ข้างๆ สวิทช์สำหรับเลื่อนปรับความลื่นวงล้อ scroll จะเป็นสติ๊กเกอร์รุ่น และสัญลักษณ์มาตรฐานต่างๆ พร้อมกับตัวเลข Serial Number ของตัวเมาส์ ถัดเอียงลงมาเล็กน้อย ที่เห็นเป็นเลนส์กลมๆ ใส ก็จะเป็นตำแหน่งของเซ็นเซอร์ตรวจจับพื้นผิวเวลาเลื่อนตัวเมาส์นั่นเอง
ด้านล่างสุดนั้น ก็จะเป็นตำแหน่งของช่องเก็บตัวรับสัญญาณ ที่ใช้เสียบเข้ากับตัวเครื่อง เพื่อส่งข้อมูลการเคลื่อนที่ของเมาส์ ขนาดตัวรับสัญญาณยังเป็นแบบ Micro ขนาดเล็ก สามารถเสียบทิ้งเอาไว้ที่เครื่องก็ได้ ไม่จำเป็นต้องถอดเก็บทุกครั้งที่ใช้งานเสร็จ เพิ่มความสะดวกในการใช้งาน
ปิดท้ายด้วยช่องใส่ถ่าน ที่อยู่ทางด้านซ้าย สามารถได้ 2 ก้อนด้วยกัน แต่ว่าจะเป็นการจัดวางในลักษณะแนวตั้งเรียงกัน 2 ก้อน แต่แม้ว่าจะใส่เพียงแค่ก้อนเดียวก็สามารถทำงานได้ ทำให้สามารถใช้น้ำหนักของก้อนถ่านในการถ่วงตัวเมาส์ให้หนักเบาตามต้องการของผู้ใช้งานได้เลย ก็จะเป็น 2 ระดับด้วยกัน คือที่ระดับความหนัก 1 ก้อน และ 2 ก้อน
สรุป
เมาส์ตัวนี้ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือก สำหรับผู้ใช้งานเครื่องคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ค ด้วยการเป็นเมาส์ไร้สายที่สามารถเสียบเข้าถอดออกได้ง่าย แต่ถ้าหากใครจะเอาไปใช้กับเครื่องตั้งโต๊ะ ก็ใช้งานได้เข่นกันไม่มีปัญหา จุดเด่นของเมาส์ตัวนี้จะอยู่ที่ระบบตรวจจับการเคลื่อนที่พื้นผิว ด้วยการใช้เซ็นเซอร์จากแสงของหลอดไฟอินฟาเรด หรือ IR ที่ Elecom บอกว่าสามารถช่วยให้ประหยัดพลังงานแบตเตอรี่ได้ดีขึ้นกว่าเดิม โดยสามารถใช้งานได้นานถึงกว่า 3 ปีครึ่งเลยทีเดียว จากสเป็กที่ Elecom ระบุเอาไว้ เมื่อนำเอาไปเปรียบเทียบกับเซ็นเซอร์แบบอื่นที่กินไฟมากกว่า ซึ่งด้วยหลอดไฟแบบอินฟาเรดนี้ ก็จะทำให้เรามองไม่เห็นแสงใดๆ เล็ดลอดออกมาจากตัวเซ็นเซอร์ด้านล่างของตัวเมาส์
นอกจากนั้นก็ยังมีอีกหนึ่งฟีเจอร์ที่ช่วยให้เราใช้งานได้อย่าสะดวกสบายมากขึ้น นั่นก็คือฟังชั่น “hyper fast scrolling” คือวงล้อ scroll wheel ที่สามารถหมุนได้ตามแรงเหวี่ยง ยิ่งเราหมุนเร็วตัววงล้อก็จะหมุนต่อไปเรื่อยๆ ทำให้การเลื่อนหน้าเอกสารที่ยาวๆระดับหลายร้อยหน้าทำได้อย่างรวดเร็วภายในพริบตาเดียว แต่ก็สามารถสลับสวิทช์ฟังชั่นตัวนี้ให้เป็นการ scroll ปกติ ที่จะเป็นจังหวะๆ ตึ๊กๆ ได้เช่นเดียวกัน อีกจุดก็จะเป็นปุ่มที่ให้มาเพิ่มจากปุ่มปกติอีก 2 ปุ่มตรงบริเวณนิ้วโป้ง เมื่อจับด้วยมือขวา ก็ช่วยให้ใช้งานได้รวดเร็วขึ้น ไม่ต้องเลื่อนเมาส์กด back หรือ forward เวลาท่องเว็บบ่อยๆ สำหรับความกระชับมือนั้น ตัวเมาส์จะไม่ใด้เป็นทรงอวบ แต่จะออกเป็นแนวผอมยาว ใครที่รูปมือขนาดใหญ่ หรือว่าเรียวยาว ตัวเมาส์ก็จะเข้ารูปกับมือได้ถนัดมากขึ้น ส่วนด้านท้ายของตัวเเมาส์ก็นูนขึ้นมารับกับอุ้งมือได้พอดี
จุดเด่น
- ทรงเมาส์เรียวยาว คนรูปมือใหญ่ หรือยาว สามารถจับใช้งานได้สะดวก
- เซ็นเซอร์จับพื้นผิวด้วยแสงอินฟาเรด (IR) ช่วยประหยัดพลังงานแบตเตอรี่ให้ใช้ได้ยาวนาน
ข้อสังเกต
- การปรับความลื่นของล้อ scroll จะเป็นสวิทช์อยู่ที่ใต้ตัวเมาส์
Elecom M-IR03DR IR LED Mouse ราคา 1,390 บาท
