หลังจากการเปิดตัวและวางจำหน่าย MacBook Pro with Retina Display ก็ทำให้เกิดกระแสขึ้นมามากมาย ว่าจอที่มีความละเอียดระดับ Retina นั้นมันเป็นปัจจัยสำคัญในการใช้งานถึงขนาดนั้นเลยหรือ แถมราคาที่ค่อนข้างสูงของตัวเครื่อง จึงทำให้เกิดข้อถกเถียงกันมาก มากกว่าสมัย The new iPad หรือ iPhone 4 ที่เป็นจุดแรกเริ่มของ Retina Display เสียอีก (คงเนื่องด้วยราคาที่สองตัวนั้นมีระดับราคาเท่าๆ เดิม เลยไม่มีปัญหานัก)
ซึ่งอันที่จริงแล้ว Retina Display ก็คือจอที่มีความละเอียดสูง มีความหนาแน่นของเม็ดพิกเซลในระดับที่มองด้วยตาเปล่าไม่เห็นหรือมองแยกเม็ดพิกเซลได้ยาก เช่น
- iPhone 4 มีความหนาแน่นเม็ดพิกเซลที่ 330 ppi
- The new iPad มีความหนาแน่นเม็ดพิกเซลที่ 264 ppi
- MacBook Pro with Retina Display มีความหนาแน่นเม็ดพิกเซลที่ 220 ppi
โดยจากหลายๆ คนก็ให้ความเห็นหลังจากการลองดูภาพบน MacBook Pro with Retina Display แล้วก็บอกว่าแทบไม่ต่างจากเดิมมากนัก ถ้าไม่ได้จ้องสังเกตแบบละเอียดจริงๆ จึงทำให้เป็นที่สงสัยกันว่า เทคโนโลยีการแสดงผลแบบละเอียดอย่างใน MacBook Pro with Retina Display นั้นมีความจำเป็นหรือไม่ เพราะที่จริงแล้วเราก็สามารถใช้งานคอมพิวเตอร์ที่มีการแสดงผลแบบเนียนๆ ตาในระดับหนึ่ง แต่ก็ยังเหนือกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วๆ ไปในท้องตลาดได้เช่นกัน เพียงแต่อาจจะต้องเป็นในโน๊ตบุ๊คเครื่องเล็กซักหน่อย เช่น MacBook Air 11 ที่มีความละเอียดจอ 1366×768 หรือจะเป็นพวก ASUS ZenBook Prime ที่มีความละเอียดจอ 1920×1080 บนจอเพียง 13 นิ้ว ที่ก็น่าจะเพียงพอต่อการแสดงภาพแบบเนียนๆ ในระดับหนึ่งแล้ว นอกเสียจากจะจำเป็นต้องใช้จอใหญ่ๆ ความละเอียดภาพสูงๆ เนียนๆ อันนี้ก็คงหนี MacBook Pro with Retina Display ไม่ได้อยู่ดี แต่ก็อาจแลกมาด้วยประสิทธิภาพในการทำงานที่ลดลงมาจากจอปกติเล็กน้อย เพราะเครื่องต้องใช้พลังในการเรนเดอร์ภาพที่สูงกว่าเดิมถึง 4 เท่า
ว่าแล้วก็ชักอยากเห็นความละเอียดและสเปกของ MacBook Pro 13 Retina Display ที่น่าจะออกมาเร็วๆ นี้ซะแล้วซิ :D
ที่มา : CNET