Connect with us

Hi, what are you looking for?

Mac Corner

Apple ตอบข้อสงสัยกรณีถอนตัวจาก EPEAT หนึ่งในมาตรฐานสิ่งแวดล้อม : ก็มันไม่เจ๋งพอนี่ !!

หลังจากมีการนำเสนอข่าวว่าผลิตภัณฑ์ Mac รุ่นใหม่อย่าง MacBook Pro, MacBook Air และ MacBook Pro with Retina Display

หลังจากมีการนำเสนอข่าวว่าผลิตภัณฑ์ Mac รุ่นใหม่อย่าง MacBook Pro, MacBook Air และ MacBook Pro with Retina Display ของปีนี้ไม่ได้รับการรับรองมาตรฐานเกี่ยวกับการรีไซเคิลวัสดุเพื่อสิ่งแวดล้อมนามว่า EPEAT ไปเมื่อวันก่อน (ข่าวเก่า) ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ออกมามากมาย ซึ่งก็แน่นอนว่า Apple จะต้องออกมาใหคำตอบกับประเด็นอ่อนไหวนี้ ซึ่งคำตอบจากตัวแทนของ Apple ก็ตีความออกมาได้ดังนี้DSC_7411_575px

อันที่จริงแล้ว Apple มีความพยายามอยู่ตลอดที่จะทำให้ทั้งวัตถุดิบ กระบวนการผลิตที่ลดหรือยุติการใช้วัตถุเป็นพิษในการผลิด รวมไปถึงผลิตภัณฑ์ตรงตามหลักเกณฑ์และมีความเป็นมิตรสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะมาตรฐาน Energy Star 5.2 ที่ Apple ทำได้เหนือกว่ามาตรฐานอย่างที่ลงในเว็บไซต์ของตน และยังเหนือกว่าบริษัทอื่นๆ มาก ยกตัวอย่างเช่น Dell ที่ผลิตภัณฑ์กว่า 171 ตัวได้รับการรับรองจากมาตรฐาน EPEAT แต่กลับไม่มีคอมพิวเตอร์รุ่นใดเลยของ Dell ที่ผ่านการรับรอง Energy Star อย่างที่ Apple เป็น

Advertisement

โดยตัวของ EPEAT นั้น ตัวแทนของ Apple ก็ให้ความเห็นว่าเป็นมาตรฐานที่ล้าสมัยไปแล้ว แถมไม่ครอบคลุมการอนุรักษ์สภาพแวดล้อมหลายๆ อย่างที่ Apple ทำอยู่ ประกอบกับตัวของ EPEAT ไม่ได้ครอบคลุมถึงผลิตภัณฑ์อื่นๆ ของ Apple ด้วย เช่น iPhone และ iPad ซึ่งด้วยเหตุผลต่างๆ ข้างบนนี้ ทำให้ Apple ถอนตัวจากการตรวจและรับรองตามมาตรฐาน EPEAT ซะเลย ทั้งๆ ที่ตนเองเคยเป็นผู้ร่วมผลักดันให้เกิด EPEAT ขึ้นในปี 2006inside_mbp_ifixit

ซึ่งก็ส่งผลทันที นั่นคือมีหน่วยงานของรัฐซานฟรานซิสโกกำลังจะดำเนินการยุติการจัดซื้อหาอุปกรณ์จากทาง Apple ทั้งในส่วนของเครื่อง iMac และ MacBook เนื่องด้วยอุปกรณ์ที่จะสั่งต้องผ่านการรับรองตามมาตรฐาน EPEAT เท่านั้น โดยหวังว่าการกระทำเช่นนี้ น่าจะเป็นการกดดัน Apple ทางอ้อมให้กลับมารับการตรวจสอบตามมาตรฐาน EPEAT อีกครั้งP6140014

แต่ก็เป็นไปได้ว่าการแบนสินค้า Apple ของหน่วยงานรัฐซานฟรานซิสโกจะไม่ก่อให้เกิดผลต่อ Apple เท่าไร เพราะเมื่อดูย้อนหลังไปปีที่แล้ว ทางหน่วยงานได้จัดซื้อเครื่อง Desktop จาก Apple, MacBook และ iPad (รู้สึก iPad จะไม่มีการรับรอง EPEAT นะ) ไปเป็นมูลค่าเพียง $45,579 เท่านั้น จากยอดขายรวมเครื่อง desktop และ MacBook ทั้งปีของ Apple ทั่วโลกที่มีมูลค่ากว่า 3.8 ล้าน USD ซึ่งถ้ามองในแง่ของรายได้ Apple อาจจะไม่ได้รับผลกระทบมากนัก แต่ที่น่าสนใจคือมันจะเกิดปฏิกิริยาลูกโซ่ต่อไปยังรัฐอื่น ประเทศอื่นด้วยหรือไม่ ซึ่งถ้าเกิดจริง คาดว่าเราน่าจะได้เห็นการขยับของ Apple อีกครั้งแน่นอน

ที่มา : WSJ, Loop Insight

Click to comment
Advertisement

บทความน่าสนใจ

Buyer's Guide

อัพเดท iPhone 15 ราคาล่าสุด 2025 ทั้งเครื่องเปล่าและติดโปร จาก 3 ค่ายใหญ่ ทั้ง AIS, DTAC และ TRUE หลังจากที่เปิดตัว iPhone รุ่นใหม่อย่าง iPhone 16 Series กันไปแล้ว หลายๆ คน ที่กำลังมองหาซื้อ...

Mac Corner

อุปกรณ์อีเล็กทรอนิกส์ทุกชิ้นมีโอกาสเกิดความผิดพลาดได้เสมอไม่ว่าจะแบบใดก็ตาม ปัญหาว่าไอแพดเปิดไม่ติดก็ต้องหาทางซ่อมไอแพดให้กลับมาใช้งานได้ตามเดิม นับเป็นปัญหากวนใจชาว Apple มาก ยิ่งใครเก็บงานเอาไว้ในแท็บเล็ตตัวนี้แล้วไม่ได้ Cloud sync แบ็คอัพงานเอาไว้เจอแบบนี้ก็เดือดร้อนไปตามกัน ซึ่งอันที่จริงวิธีแก้ปัญหาไอแพดไม่ทำงานนั้นไม่ได้ยากอย่างที่คิดและอาจเป็น “เส้นผมบังภูเขา” ซึ่งถ้าเป็นปัญหาด้านซอฟท์แวร์ก็ทำเองได้ไม่ยาก แล้วถ้าเกิดจากฮาร์ดแวร์แล้วจะส่งศูนย์ให้ดูแลต่อก็ว่ากันไปอีกกรณีหนึ่ง ไอแพดเปิดไม่ติดเกิดจากอะไรได้บ้าง? อุปกรณ์อีเล็กทรอนิกส์ทุกชิ้นมีโอกาสทำงานผิดพลาดได้ทั้งหมด แต่วิธีเช็คแนะนำให้แก้ปัญหาด้านซอฟท์แวร์ก่อนแล้วไปเช็คฮาร์ดแวร์ในภายหลัง อุปกรณ์ Apple ไม่ว่าจะ iPad หรือ iPhone สามารถกด Restart...

Buyer's Guide

สินค้าใน Apple Ecosystem นอกจาก iPhone ก็มีแท็บเล็ตอย่าง iPad ซึ่งมีรุ่นย่อยมากมาย แต่รุ่นที่ใครก็อยากได้อย่าง iPad Pro ราคาเริ่มต้นตอนนี้ก็ค่อนข้างสูง เริ่มต้นตอนนี้ก็ต้องมีเงินหลักสามหมื่นบาทแล้ว แม้ราคาจะสูงแต่ก็เป็นอุปกรณ์ทำงานอีกชิ้นที่คนใช้อุปกรณ์ Apple มีเอาไว้แล้วทำงานสะดวกขึ้นมาก ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอเสริมให้ MacBook, เซ็นเอกสาร, ตัดต่อคลิป ฯลฯ ได้สะดวกมาก ยิ่งถ้ามี Apple...

How to

ในวันหยุดหรือหลังเลิกงาน เชื่อว่าหลายคนก็มี YouTube เป็นเพื่อนไว้ดูหนัง, การ์ตูนหรือฟัง Podcast กันแน่นอน แต่ถ้าไม่อยากให้โฆษณากวนใจก็ต้องสมัคร YouTube Premium เพิ่มให้ดูคลิปได้ต่อเนื่องไม่ให้เสียอารมณ์นัก ซึ่งบางคนก็ไม่ชอบที่ Google ทำแบบนี้นักจึงหาวิธีแก้ทางร้อยแปดมาใช้กัน กลับกันการใช้บัญชี Premium ยอมเสียค่าบริการคนละ 179 บาท/เดือน จะเป็นแพ็คเกจแบบตัดโฆษณาใน YouTube Music ไปในตัว ทำให้เวลาฟังเพลงไม่ต้องโดนยิงสปอตโฆษณาให้เสียอารมณ์...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

บันทึก