ใครที่ลอง Windows 8 เวอร์ชันต่างๆ มาแล้ว น่าจะพอเห็นกันไปบ้างว่าความเร็วในการทำงานของ Windows 8 นั้นสูงขึ้นกว่า Windows 7 พอสมควร ที่เห็นได้ชัดก็คือความเร็วในการบูตเครื่องที่เร็วขึ้นกว่าเก่ามาก ทั้งๆ ที่สเปกเครื่องที่ใช้งานเป็นเครื่องเดียวกัน ทำให้หลายๆ คนคาดหวังว่าประสิทธิภาพในการใช้งานด้านอื่นๆ จะได้รับการพัฒนาให้เร็วขึ้นด้วย
ซึ่งก็มีผู้ทดสอบการทำงานของ Windows 8 เทียบด้านการ benchmark ต่างๆ กับ Windows 7 เพื่อให้เห็นภาพความต่างได้ชัดเจน โดยเครื่องที่ใช้ทดสอบก็คือโน๊ตบุ๊ค Toshiba Portege R835-P88 ที่มีสเปกดังนี้
- Intel Core i5-2450M ความเร็ว 2.5 GHz
- RAM 6 GB
- HDD 500 GB
- การ์ดจอ Intel HD Graphics 3000
- Windows 7 Ultimate 64-bit กับ Windows 8 64-bit
ส่วนผลที่ได้จากการทดสอบก็มีดังนี้ ก็จากในตารางจะเห็นได้ว่าคะแนนส่วนใหญ่จะเป็น Windows 8 ที่ทำได้ดีกว่า Windows 7 ไม่ว่าจะเป็นความเร็วในการบูตเครื่องที่เร็วกว่าถึงเกือบเท่าตัว ความเร็วในการ shutdown ก็เร็วกว่า รวมไปถึงคะแนนที่ทดสอบประสิทธิภาพการทำงานทั้งหลาย
ซึ่งเรื่องของความเร็วในการบูตนั้น ส่วนสำคัญที่ทำให้ Windows 8 สามารถบูตเครื่องได้เร็วก็คือการสนับสนุนระบบ UEFI ที่เข้ามาแทน BIOS แบบเดิมๆ ทำให้สามารถเริ่มต้นใช้งานระบบได้เร็วขึ้นกว่าเดิม และยิ่งถ้าใช้งานบน SSD ก็จะยิ่งเร็วกว่าเดิมมากแน่นอน ซึ่งเอาจริงๆ แล้วก็น่าจะเป็นเรื่องความเร็วในการบูตนี่ละครับที่เห็นผลด้วยตาเปล่าได้ดีที่สุด
ที่มา : PC Mag