จากที่ทาง NBS ได้รีวิวตัว Sony Vaio T11 Ultrabook?ที่ถือว่าเป็น Ultrabook ตัวแรกจากทาง Sony กันไปแล้วทีนี้ก็มาถึงตาของเจ้า Sony Vaio S series กันบ้างซึ่งก็ยังมาพร้อมความบางและประสิทธิภาพของตัวเครื่องที่คับแก้วเหมือนเติมกับ Sony Vaio S13 โดยในรุ่นที่เราได้นำมารีวิวนี้ถือว่าเป็นการรีเฟรขของ Vaio S ที่ได้มีการเลือกใช้ชิปประมวลผล Intel Ivy Bridge ที่ได้มีการเปลี่ยนรูปร่างหน้าตาไปบ้างจากรุ่นก่อนหน้า แต่โดยหลักๆ แล้วก็คงดีไซน์แบบเดิมไว้อยู่
ด้วยการออกแบบที่คงความเป็นเอกลักษณ์ของ Sony Vaio ไว้ได้เป็นอย่างดี ในแนวของความเรียบๆ แต่หรูหราเหมาะกับการใช้งานพกพาไปใช้นอกสถานที่ จากทางความบางความเบาและวัสดุแข็งแรงที่ใช้ในการประกอบอย่างแม็กนีเซียมอัลลอยด์ รวมถึงสเปกที่ทำออกมาได้ค่อนข้างคุ้มค่าอยู่ในทุกรุ่น Sony Vaio S series ซึ่งระดับราคาก็เริ่มต้นที่ประมาณสามหมื่นกว่าบาท จนไปถึงประมาณเกือบห้าหมื่นบาท จึงครองใจผู้ใช้งานหลายท่านมาจนถึงปัจจุบัน และแล้วก็มาถึงกันกับ Sony Vaio S series ตัวล่าสุด ที่เราได้มานั้นเป็นตัวสเปกระดับ Top สุด มาดูกันว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรกันบ้าง กับ Sony Vaio S13
สเปกของตัวเครื่อง
จัดกันมาเต็มสำหรับ Sony Vaio S13 ตัวใหม่นี้ด้วยแกนประมวลผลหลักอย่าง Intel Core i7-3520M ที่ทำงานด้วยความเร็วสัญญาณนาฬิกาที่ 2.9GHz ทั้งยังสามารถเพิ่มความเร็วไปได้ถึง 3.6GHz ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรม Ivy Bridge ตามมาด้วยกราฟิกการ์ดตัวแรงอย่าง Nvidia GT640m LE กับหน้าจอขนาด 13.3นิ้ว ที่ความละเอียด 1600×900 พิกเซล พร้อมกับหน่วยความจำแรมในตัวเครื่องขนาดถึง 8GB และ ฮาร์ดดิสก์ขนาด 750GB ความเร็วรอบ 5400RPM ที่รองรับทุกการใช้งานได้อย่างสบายๆ พอร์ตการใช้งานก็จัดมาเต็มที่ด้วย USB 2.0, USB 3.0, LAN(RJ-45)และพอร์ตที่ใช้เชื่อมต่อการแสดงผลอย่าง D-Sub , HDMI ก็มีมาให้ได้เลือกใช้กัน ที่สำคัญยังมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Windows 7 Professtional ลิขสิทธิ์ และเทคโนโลยี?Rapid Wake + Eco ที่ทำให้โน๊ตบุ๊คเครื่องนี้พร้อมใช้งานทันทีจากโหมด Sleep เหมือนอย่างที่ Ultrabook ทำได้
รูปร่างหน้าตา?
ด้านการออกแบบภายนอกของ Sony Vaio S13 นั้นก็ยังคงดูสวยงามเรียบหรูเหมือนดังกับในรุ่นที่ผ่านๆมา โดยวัสดุที่นำมาใช้นั้นก็ยังคงเป็นแม็กนีเซียมอัลลอยที่มีความทนทานต่อการขีดข่วนและแข็งแรงเมื่อเวลาใช้งาน อีกทั้งยังเป็นวัสดุที่มีน้ำหนักที่เบาดูได้จากน้ำหนักของตัวเครื่องอยู่ที่ 1.67 กิโลกรัมเท่านั้นเอง (ตามสเปก) โดยมีน้ำหนักที่เบากว่า Sony Vaio S รุ่นรอง เพราะใช้วัสดุบางส่วนเป็นคาร์บอนไฟเบอร์ ซึ่งตัวที่เราได้มารีวิวนั้นเป็นสีดำนะครับ
ด้านในก็ยังคงคล้ายคลึงกับในตัวก่อนหน้านี้ แต่จะเห็นได้ว่าวัสดุที่ใช้ใน Sony Vaio S13 พื้นผิวมีความมันและดูสวยงามมากขึ้น อีกอย่างที่น่าสนใจคือทัชแพตที่กว้างๆ ขึ้นอย่างมากหากเทียบกับ Vaio S รุ่นก่อน สีสันต่างๆ ของตัวเครื่องก็มีมากันให้เลือกถึง 3 สี คือ ขาว ดำ และ ชมพู เพื่อเอาใจกลุ่มวัยรุ่นและสาวๆ โดย Sony Vaio S กับโนัตบุ๊กมาพร้อมขนาดหน้าจอ 13 นิ้ว ความละเอียด 1600 x 900 พิกเซล ที่ถือว่าให้ความละเอียดมากกว่าโน๊ตบุ๊ค 13 นิ้วทั่วไป รวมไปถึง Son Vaio S ตัวนี้ยังใช้หน้าจอ?VAIO Display Premium ที่ให้สีสันสมจริง (Sony Vaio S15 เท่านั้นที่เป็น IPS) ที่สำคัญยังเป็นหน้าจอแบบด้านที่ลดการสะท้อนแสงได้เป็นอย่างดี?
บริเวณขอบของตัวเครื่อง Sony Vaio S13 นั้นมีการลบเหลี่ยมมุมออกไปเมือจับแล้วไม่รู้สึกบาดมือ ด้านในจะเห็นยางรองหน้าจอเมื่อปิดจอลงจะทำให้จอไม่สัมผัสกับคีบอร์ดพร้อมกันกล้องเว็ปแคมความละเอียดระดับ HD พร้อมใช้เซ็นเซอร์ Exmor for PC ความละเอียด 1280 x 1024 พิกเซล?ที่ถูกติดตั้งมาบริเวณด้านบนของจอ ?
คีย์บอร์ดนั้นเป็นแบบ Chiclet คีย์บอร์ดขนาด Full Size เหมือนกันกับ Sony Vaio ทุกรุ่น พร้อมไฟ Blacklit แบบ Auto Senser ที่ช่วยให้สามารถใช้งานได้อย่างไม่ติดขัดแม้ในที่มืด ซึ่งเมื่อทดลองใช้แล้ว ก็ถือได้ว่าสามารถใช้งานได้อย่างสะดวกและคล่องตัว อีกทั้งไฟคีย์บอร์ดนั้นก็ใช้านได้ตามสบายตา
ส่วนของฟังก์ชั่นต่างที่อยุ่เหนือตัวคีย์บอร์ดของ Sony Vaio S13 นั้นเริ่มกันจากด้านขวาจะพบกับไฟบอกสถานะการเสียบอแดปเตอร์ ถัดมาเป็นปุ่มสำหรับ เปิด-ปิดเครื่อง ?และปุ่มฟังชั่นก์ Assist, WEB และ Vaio เหมือนกันกับในทุกรุ่น ถัดมาจะพบกับ แถบตรวจสอบลายนิ้วมือ (Fingerprint) ที่ได้ย้ายจากบริเวณทัชแพทจากตัวเดิมมาอยู่บริเวณด้านบนแล้ว ตามมาด้วยช่อง Ambient light sensor ?ไว้คอยตัวจับความสว่างของห้อง ที่จะผลให้หน้าจอในการแสดงผลนั้นปรับความสว่างให้พอดีอยู่เสมอ อย่างการใช้ในห้องที่มีแสงน้อย ตัว Vaio S เองก็จะปรับค่าแสงลงมาอย่างอัตโนมัติ?และที่จะคอยตรวจสอบความสว่างเพื่อสั่งเปิด-ปิดไฟ Blacklit ?ต่อมาเป็นแถบเลื่อน Stamina-Speed ที่สามารถให้เราเลือกใช้งานกราฟิกการ์ดแบบแยก หรือออนบอร์ดได้ตามต้องการ สุดท้ายกับปุ่ม Eject Optical Drive นั้นเอง
สิ่งที่เปลี่ยนไปมากอีกอย่างหนึ่งสำหรับ Sony Vaio S13 ตัวนี้คือขนาดของทัชแพตที่มีขนาดกว้างขึ้นกว่าเดิมมากเพื่อรองรับการทำงานกับ Windows 8 ที่กำลังจะออกมา รวมถึงปุ่มคลิกซ้าย-ขวาก็ได้กลายเป็นเนื้อเดียวกับทัชแพตแล้ว ซึ่งจะเห็นได้ว่า Sony Vaio ทุุกรุ่นในปี 2012 จะเป็นแบบนี้หมดแล้ว พร้อมกับสติ๊กเกอร์บ่งบอกความสามารถของเครื่องอย่างชัดเจน?
ด้านหลังมากันเรียบๆ โดยสามารถเปิดออกเพื่ออัพเกรดแรมและฮาร์ดดิสก์ได้ พร้อมกับช่องระบายอากาศทั้งบริเวณด้านข้างและด้านหลังของตัวเครื่อง ฟิลเตอร์ที่มาบริเวณด้านหลังเป็นทองแดงเคลือบมันอย่างชัดเจน
ฝาเปิดเพื่อจะเปลี่ยนอุปกรณ์ด้านในนั้นมีบริเวณขาล๊อคที่ออกมาทำให้สามารถเปิดเปลี่ยนอุปกรณ์ได้ง่ายยิ่งขึ้น ภายในของ Sony Vaio S13 เราจะเห็นได้ว่าสามารถเปลี่ยนในส่วนของฮาร์ดดิสก์และก็แรมรวมถึงแบตเตอรี่แบบที่ถูกติดตั้งมาภายในด้วย
แบตเตอรี่ที่ถูกติดตั้งมาภายใน Sony Vaio S13 นั้นมาพร้อมกับขนาด 45 Wh (4400 mAh) ที่สามารถใช้งานได้ยาวนานหลายขั่วโมง ด้านหลังเองยังมีส่วนของช่อง Express Slot ที่ทำให้เราสามารถเชื่อมต่อในส่วนของ Docking Stand เพื่อเพิ่มพอร์ตการใช้งานและแบตเตอรี่เสริมได้อีกด้วย
พอร์ตการใช้งานนั้น Sony Vaio S13 ก็มาอย่างครบถ้วน โดยเริ่มกันจากด้านขวามือของเครื่อง Card Reader ที่แบ่งไว้สำหรับ Memory stick กับ SD แยกออกจากกัน, D-Sub, HDMI, USB 3.0 จำนวน 2 พอร์ต, USB 2.0 charger จำนวน 1 พอร์ต, LAN(RJ-45) และสุดท้ายกับช่องเสียบชาร์ต อแดปเตอร์
ส่วนในด้านซ้ายนั้นมีแค่เพียง ช่องเสียบหูฟังและไมค์แบบช่องเดียวขนาดมาตรฐาน 3.5 มิลลิเมตร กับ ออฟติคอลไดร์ฟแบบ Slot-in เพียงเท่านั้น
ด้านขอบหน้านั้นมาพร้อมไฟบอกสถานะของตัวเครื่อง โดยมีส่วนของ Wireless , การเสียบชาร์ตแบตเตอรี่ ไฟบอกการทำงานของฮาร์ดดิสก์และไมค์ที่ถูกติดตั้งมาภายในตัวเครื่องซ่อนอยู่ด้านล่าง
ด้านหลังเราจะพบกับช่องระบายความร้อนด้านหลังและบานพับแบบแกนยาวที่จะทำให้จอไม่ส่ายไปมามากนักถ้าทำงานในที่ที่มีลมแรง รวมไปถึงเมื่อใช้งานไปนานๆ ก็ยังให้ความทนทานอยู่
ความกว้างของตัวเครื่อง Sony Vaio S13?นั้นก็ยาวเกินนิตยสารทั่วไปออกมาเพียงเล็กน้อย และอแดปเตอร์ก็มีขนาดมาตรฐานเหมือนกับโน๊ตบุ๊คขนาด 13 นิ้วทั่วไป
ความหนาของตัวเครื่องนั้นก็ประมาณ กล่องใส่ DVD ขนาดปกติ ไม่แตกต่างจากรุ่นก่อนหน้า
ในส่วนของน้ำหนักตัวเครื่อง Sony Vaio S13 ถือว่าเบามากถ้าเทียบกับในรุ่นและแบรนด์อื่นๆ ซึ่งเฉพาะตัวเครื่องนั้นมีน้ำหนักเพียง 1.608 กิโลกรัม และเมื่อรวมกับอแดปเตอร์แล้วก็หนักเพียง 2.025 กิโลกรัม เท่านั้น เรียกได้ว่าเหมาะกับคนที่ต้องการใช้งานโน๊ตบุ๊คประสิทธิภาพสูงทั้งชิปประมวลผลและกราฟิการ์ดเพื่อพกพาไปใช้งานนอกสถานที่มากๆ
Performance & Benchmark
CPU-Z
เริ่มด้วย CPU-Z กันก่อนเลย ที่ Sony Vaio S13 มากับ CPU Intel Core i7-3520M ซึ่งเป็น Intel Core i Gen ที่เป็นสถาปัตยกรรม Ivy Bridge ทำงานแบบ 2 คอร์ 4 เธรด ด้วยความเร็ว 2.9GHz และสามารถเทอร์โบคอร์ไปได้ที่ 3.6GHz พร้อม เมมโมรี่แคชอันดับที่3 ขนาด 4MB
RAM นั้นก็มากันถึง 2 แถวที่ความจุ 8GB และมีความเร็วของการทำงานอยู่ที่ Bus 1333 แน่นอนว่ามันทำงานแบบ Dual Channel
GPU-Z
กราฟิกการ์ดที่ติดมานั้นก็เป็น Nvidia GT640M LE ของแท้ที่มี shaders ถึง 384 Unifiled เทียบเท่ากับตัว Nvidia GT640M ตัวเต็มเพียงแต่ลดสัญญาณนาฬิกาลงเหลือ 500MHz เพื่อนที่จะลดความร้อนของตัวเครื่อง
หน้าจอนั้นก็มากับความละเอียดสูงที่ 1600×900 พิกเซล ที่ถือว่าสูงมากเมื่อเทียบกับจอหนาด 13.3 นิ้วในรุ่นอื่น
Windows experience index
คะแนนจาก Windows experience index นั้นถือว่าเป็นที่น่าพอใจอย่างยิ่ง ที่ดูจากตัวเลขคะแนนของแต่ละหมวดถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่สูงทีเดียว
HD-Tune Pro 5.00
ในตัวเครื่องของ Sony Vaio S13 ภายในได้ติดตั้งฮาร์ดดิสก์จากทาง Toshiba ที่มากับขนาดความจุ 750GB และทำงานที่ความเร็วรอบ 5400RPM จากการทดสอบค่าที่ได้นั้นอยู่ในเกณฑ์ของฮาร์ดดิสก์จานหมุนปกติ
Cinebench R11.5
Cinebench R11.5 นั้นก็ให้คะแนนเป็นที่น่าพอใจสามารถเรนเดอร์งานได้อย่างสบายๆ
3Dmark 06 & 3Dmark 11
คะแนนในส่วนกราฟฟิก 3Dmark นั้นก็ได้บงบอกอย่างชัดเจนว่า Sony Vaio S13 ตัวนี้สามารถใช้งานด้านกราฟฟิกได้เป็นอย่างดี
PCMARK 7
คะแนนของ PCMARK 7 คือการทดสอบการใช้งานจริงโดยมีการรันในรูปแบบต่างๆซึ่ง Sony Vaio S13 ก็ทำคะแนนออกมาได้อยู่ในเกณฑ์ที่ดี
Hardware Monitor
ในเรื่องเกี่ยวกับความร้อนนั้นก็ได้ปรับให้ดีมากขึ้นกว่าตัวบอดี้เดิมโดยเมื่อทำงานเต็มที่แล้ว CPU จะร้อนเป็นระดับปกติของ intel Ivy Bridge ไม่มีการสะสมความร้อนภายในแต่อย่างใด ซึ่งในการทั่วไปอุณหภูมิอยู่ที่ประมาณ 40-50 องศาเซลเซียส และในกรณีที่เครื่องทำงาน 100% ก็จะอยู่ที่ 85 องศาเซลเซียสเท่านั้นเอง
GAME TEST
Street fighter IV
เล่นกันได้อย่างลื่นไหลสำหรัล Street fighter IV ที่ได้เฟรมเรตเกิน 100 แบบนี้
Resident Evil 5
หรือแม้แต่ใน Resident Evil 5 เองก็ลื่นไหลกันในระดับ 70 เฟรตที่ชาว Gamer ทุกคนยอมรับ
สรุปปิดท้าย
ทั้งหมดทั้งมวลนี้ก็คือความสามารถของ Sony Vaio S13 ตัวเด็ดของเราในครั้งนี้ที่มาพร้อมความบางกับน้ำหนักที่น่าประทับใจพร้อมด้วยประสิทธิภาพระดับสูงทั้งด้านการประมวลผลที่ดีกราฟฟิกที่ยอดเยี่ยมรวมถึงการออกแบบตัวเครื่องที่ไม่ว่ามองยังไงก็รู้สึกถึงความเป็น Sony ได้อย่างไม่ผิดเพี้ยน?
หากใครต้องการโน๊ตบุ๊คที่เน้นการพกพาพร้อมทั้งประสิทธิภาพการทำงานทั้งประมวลผลและกราฟิก รวมไปถึงประสบการณ์ใช้งานที่ดีทั้งหน้าจอที่แสดงสีสันได้สวยงามสมจริง อีกทั้งยังมีตัวเครื่องที่แข็งแรงทนทานและเทคโนโลยีที่ล้ำหน้า ซึ่งเมื่อนำไปใช้งานที่ไว้ก็สามารถหยิบออกมาใช้งานได้อย่างภาคภูมิใจ สำหรับ Sony Vaio S ตัวนี้น่าจะเป็นคำตอบ ซึ่งถึงแม้ว่าอาจจะต้องจ่ายเงินมากกว่าโน๊ตบุ๊คแบรนด์อื่นๆ ?ที่สเปกเดียว ก็ขอบอกว่าถ้าเพิ่มเงินเป็น Sony Vaio S ตัวนี้ได้ รับรองว่าไม่ผิดหวังครับ
ข้อดี
- ตัวเครื่องบางเบาไม่ต่างจาก Ultrabook มากนัก
- วัสดุที่ใช้ประกอบนั้นมีความคงทนแข็งแรง
- ประสิทธิภาพของเครื่องนั้นอยู่ในระดับสูงเมื่อเทียบกับขนาดของเครื่อง
- มาพร้อม Windows ลิขสิทธิ์แท้จากทาง Microsoft
- ทัชแพดมีขนาดใหญ่กว่ารุ่นก่อนๆ?
- มาพร้อมกับเทคโนโลยี Rapid Wake + Eco?
ข้อสังเกตุ
- ราคาค่อนข้างสูง
- พัดลมระบายอากาศเมื่อทำงานเต็มที่มีเสียงออกมาค่อนข้างมาก
ซึ่งแต่ละหมวดมีคะแนนเต็ม 5 คะแนนตามประสิทธิภาพของแต่ละหมวด โดย Sony Vaio S13สามารถผ่านการทดสอบมาได้ตามระดับคะแนนเลยครับ
- 4/5 ?Design
- 3/5 ?ความคุ้มค่า (Value)
- 3/5 ?Performance
- 3/5 ?ความสะดวกในการพกพา (Mobility)
- 4/5 ?ความคงทนแข็งแรง (Durability)
- 3/5 ?Gaming
รวม 20 คะแนน
notebookspec.com จึงขอมอบรางวัล Gold ให้แก่ Sony Vaio S13
ขอขอบคุณ Sony Thailand สำหรับ Sony Vaio S13 สำหรับตัวเครื่องในการทดสอบ
?
?