ในปัจจุบันนี้ ระบบปฏิบัติการคอมพิวเตอร์โดยมากมักจะมีความสามารถในการอัพเกรดเวอร์ชันในตัว ทำให้ในการเปลี่ยนไปใช้ OS เวอร์ชันใหม่ ผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องซื้อตัว OS ตัวเต็มเพื่อมาติดตั้งใหม่อีกต่อไป เพียงแค่อัพเกรดตัว OS แถมไฟล์ของผู้ใช้ก็จะยังคงอยู่ให้ใช้งานได้ด้วย
โดยทางฝั่ง Windows นั้น แม้ว่า Windows 8 จะมีแผนที่จะออกวางจำหน่ายในช่วงเดือนตุลาคมค่อนข้างแน่นอนแล้ว แต่ถ้าดูในตลาด เราก็จะยังเห็นโน๊ตบุ๊คที่มาพร้อม Windows 7 วางขายอยู่ ซึ่งแน่นอนว่าถ้าผู้ใช้งานโน๊ตบุ๊คเหล่านี้ ต้องการจะใช้งาน Windows 8 (แบบถูกกฏหมาย) ในอนาคต ผู้ใช้ก็จะต้องหาซื้อชุดอัพเกรด Windows 8 มาใช้งาน โดยเมื่อมองย้อนไปในอดีต ช่วงที่ Windows 7 เพิ่งเริ่มวางขาย จะพบว่าชุดอัพเกรดจาก Windows Vista มาเป็น Windows 7 Home Premium นั้น มีราคาสูงถึง $119.99 หรือประมาณ 3,700 บาท ซึ่งใกล้เคียงกับราคาขายจริงของตัวเต็มเลยทีเดียว
แต่ทางฝั่งของ Apple นั้น ราคาสำหรับการอัพเดตจาก OS X 10.7 (Lion) มาเป็น OS X 10.8 (Mountain Lion) มีราคาเพียง $19.99 (ประมาณ 600 บาท) ถ้ามองย้อนไปในอดีต ค่าอัพเกรดจาก OS X 10.5 มาเป็น OS X 10.6 นั้นมีราคา $29 หรือประมาณ 900 บาท ทำให้เห็นว่าราคาอัพเกรด OS ของฝั่ง Apple มีราคาถูกลงเรื่อยๆ และจากผลวิจัย พบว่าราคาอัพเกรดที่ลดลง ส่งผลให้คนหันมาอัพเกรด OS แบบถูกกฏหมายกันมากขึ้นอีกด้วย (ที่ค่าเครื่องแพง เพราะอาจรวมส่วนหนึ่งของค่าอัพเกรด OS ไว้แล้วก็ได้นะนี่)
ดังนั้น Microsoft อาจจะต้องคิดทบทวนแนวทางเรื่องค่าอัพเกรด Windows ซักเล็กน้อย ถ้าต้องการให้คนอัพเกรดแบบถูกกฏหมายจริง การลดราคาก็เป็นตัวเลือกที่ดี เพราะยังไงยอดขายได้ก็เยอะกว่า Apple อยู่แล้ว ทั้งนี้คงต้องมารอลุ้นกันใน Windows 8 นี่ละครับ
ที่มา : Notebookcheck