นับวันโน๊ตบุ๊คก็ยิ่งขายได้เยอะขึ้นทวีคูณทุกวัน และปัญหาที่ตามมานั่นก็คือบริการหลังการขายนั่นเอง โดยเฉพาะแบรนด์ใหญ่ๆที่ขายเยอะๆนี่ยิ่งได้ยินเสียงบ่นเรื่องบริการหลังการขายเยอะกว่าแบรนด์อื่นๆที่ขายน้อยกว่า ซึ่งเป็นเป็นธรรมดาครับขายมากก็ต้องบริการมากเป็นธรรมดา แต่สิ่งที่ลูกค้าอย่างเราๆต้องการนั่นไม่ใช่แค่เครื่องคุณภาพดีไม่เสียเท่านั้น แต่ถ้าหากเกิดเสียซึ่งเป็ฯธรรมดาของสินค้า IT ย่อมมีโอกาสเสียกันบ้างละ แต่เมื่อเข้าบริการตามศูนย์บริการแล้วก็ขอบริการประทับใจหน่อย จะซ่อมนานนิดหน่อยแต่พูดกับลูกค้าดีๆก็พอทำใจได้
แต่หลายๆครั้งที่ลูกค้าอย่างเราๆมักจะได้กลับมาดันเป็นบริการแย่ๆของศูนย์บริการ ไม่ว่าจะตอบคำถามลูกค้า ไม่ได้หรือตอบไม่ดี รับเครื่องซ่อมส่งๆไป ไม่ติดตามงานซ่อม จนไปถึง Call Center เองที่พูดจาไม่เข้าหู ซึ่งถ้าเป็นเมื่อก่อนเราก็คงได้แต่โทรร้องเรียนหรือไปบ่นตามศูนย์บริการ แต่ในปัจจุบันที่อินเตอเน็ตมันสะดวกสบายและการมาถึงของ social network ทำให้เรื่องการร้องเรียนทำได้ง่ายมากขึ้น รวมถึงการติดตามงานซ่อมหรือแจ้งซ่อมต่างๆเราก็ควรใช้เจ้า social network นี่ละครับให้เป็นเครื่องมือ แต่จะมีชื่อทางไหนบ้างที่น่าสนใจกัน
Call Center
เป็นวิธีดั้งเดิมทั้งการร้องเรียนบริการ ตัวเครื่อง รวมถึงติดตามงานซ่อมซึ่งผมแนะนำให้ใช้วิธีนี้เป็นขั้นตอนแรกก่อนนะครับ เพราะเป็นช่องทางหลักที่แต่ละแบรนด์เข้าเปิดไว้ให้ลูกค้าทุกท่านอยู่แล้ว
Link รวมเบอร์ศูนย์บริการ : https://notebookspec.com/web/?p=79362
social network (Facebook ,Twitter)
ถ้า Cell Center ไม่ได้ผลก็ต้องมาถึง social network ซึ่งปัจจุบันหลายๆแบรนด์เองก็มีทั้ง Fanpage ,Twitter ของแต่ละแบรนด์อยู่แล้วเราก็โพสร้องเรียน หรือสอบถามข้อมูได้เลยซึ่ง Fanpage ร้อยละ 90 เขาจะตอบให้ทุกคอมเมนท์ละครับไม่ว่าจะด่า หรือชม อีกทั้งเป็นข่องทางที่แบรนด์เขาเปิดไว้อยู่แล้วเขาก็ต้องพร้อมรับข้อมูลต่างๆ ซึ่งส่วนตัวผมว่าเป็นช่องทางที่ร้องเรียนซึ่งได้ผลที่สุดเพราะเป็น Page ของเจ้าของแบรนด์จริงๆ อีกทั้งเขาต้องรักษาภาพที่ดีอยู่แล้วเรพาะจะมีกลุ่มที่จะซื้อมาสอบถามด้วยเขาคงไม่ปล่อย คอมเมนท์ไว้ดีเอาไว้หรอกใช่ไหมครับ
Link รวม Fanpage ของแบรนด์ต่างๆในไทย : https://notebookspec.com/web/?p=86844
Web Board ต่างๆ
สุดท้ายเป็นทางที่ผมไม่ค่อยแนะนำเท่าไรถ้าไม่ถึงที่สุดจริงๆเพราะโอกาสที่แต่ละแบรนด์จะมาเห็นนั้นช้า จนกว่ากระทู้จะดังขึ้นมาหรือมีคนในแบรนด์นั้นๆมาเห็น อีกทั้งตัวแบรนด์บางแบรนด์อาจจะไม่ได้ใส่ใจกระทู้พวกนี้ด้วยเพราะว่าบางกรณีที่มาโพสลักษณะนี้ในลักษณะเหมือนเรียกค่าไถ่แบรนด์ประมาณว่าถ้าอยากให้ลบกระทู้ก็ต้องจ่ายมา ซึ่งเคยมีกรณีนี้มาแล้ว แต่ก็เป็นช่องทางที่ได้ผลตอบกลับที่มากที่สุดเพราะถ้าลงในเว๊บใหญ่ๆเช่น Pantip แล้วกระทู้เกิดดังขึ้นมายังไงเสียแบรนด์ก็ต้องกลับมาดูแน่นอน เพราะเว๊บพวกนี้มักจะมี user หน้าใหม่มาขอคำปรึกษาอยู่แล้ว
Webboard แนะนำ : Pantip.com/tech , overclockzone.com , notebookspec.com
ผมเอาแค่เบาๆนะครับเพราะถ้าถึงระดับนี้ส่วนใหญ่แต่ละแบรนด์ก็มักจะเห็นและเร่งแก้ปัญหาให้ แต่ถ้าสูงสุดจริงๆก็คงต้องไปถึง สคบ. (สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค) ถ้าไม่ได้หนักหรือมีผู้เสียหายมากเขาก็เรียกเรากับแบรนด์ไปเจรจากันอยู่ดีละครับ แต่ถ้าเกินเลยกว่านั้นถึงขนาดขึ้นโรงขึ้นศาลก็มักจะไม่คุ้มเพราะบางกรณีแค่คืนเงินหรือเจรจากันนิดหน่อยก็จบได้ Happy กันทั้ง 2 ฝ่ายแล้ว
แต่ก่อนอื่นจะร้องเรียนอะไรลองสำรวจก่อนนะครับว่าปัญหามันเกิดจากอะไรกันแน่เช่นตัว User Error? เอง ตัวสินค้าบริการของแบรนด์จริงๆ หรือเป็นเพียงแค่ตัวแทนจำหน่ายตัวแทนซ่อมเท่านั้น เพราะบางกรณีไม่ได้เกิดจากแบรนด์เช่นร้านตัวแทนจำหน่ายบริการห่วย ก็ต้องร้องเรียนร้านนะครับ หรือกรณีส่งซ่อมแบบที่ผมเคยเจอคือบางแบรนด์นั้นไม่ได้มีศูนย์ซ่อมเป็นของตัวเอง แต่ใช้ศูนย์ซ่อมตัวแทนก็ควรต้องร้องเรียนศูนย์ซ่อมนั้นๆ เพราะพวกนี้ไม่ค่อยสนใจชื่อเสียบแบรนด์หรอกครับ แต่พอซ่อมไม่ได้ก็จะโบ่ยส้่งๆไปว่าแบรนด์นั้นไม่มีอะไหล่ ไม่รับซ่อม ทั้งๆที่ซ่อมไม่ได้เอง แต่ลูกค้าอย่างเราๆไม่รู้ก็ด่าแบรนด์ไว้ก่อนซึ่งบางทีตัวแบรนด์เองก็ไม่รู้เรื่องเลย มาทราบอีกทีก็ตอนดดนด่าหน้าเว๊บแล้ว
ส่งท้ายซื้อโน๊ตบุ๊คมาแล้วไม่ซ่อมถือเป็นลาภอันประเสริฐแล้วครับ แต่ถ้าซ่อมก็นำขเาศูนย์แบบใจเย็นๆนะครับค่อยๆคุยกับพนักงานแล้วหาทางออกที่ดีที่สุด ไม่ใช่ไปถึงก็ด่าพนักงานเขาอย่างเดียว ไม่ได้ช่วยอะไรหรอกครับค่อยๆคุยให้สบายใจเขาจะได้เร่งซ่อมให้เราครับ 5555