นาทีนี้ก็คงไม่น่าจะไม่มีใครไม่รู้กันแล้ว เพราะว่าข่าวลือเรื่อง MacBook Pro ตัวใหม่ที่กำลังจะมาให้เห็นในเร็ววันนั้น จะมาพร้อมกับหน้าจอความละเอียดสูงพิเศษ หรือที่ Apple นั้นมีชื่อเรียกเฉพาะตัวว่า Retina Display นั่นเอง และคาดว่าจะได้เห็นได้ฟังรายละเอียดเพิ่มเติมกันในวันที่ 11 มิถุนายน เดือนหน้านี้ เพราะว่าจะเป็นกำหนดวันงาน Worldwide Developers Conference นั่นเอง
จากรายงานล่าสุดเพิ่มเติมถึงเรื่องราคาต้นทุนของเครื่องจาก CNET ได้บอกว่าการนำเอาจอ Retina Display มาใส่นั้น จะเพิ่มนต้นทุนค่าเครื่องเข้าไปอีกประมาณ $100 (3,1xx บาท) แต่ก็คาดว่า Apple น่าจะมีการต่อรอง หรือวิธีการที่จะเข้ามาช่วยลดราคาต้นทุนขอเครื่องที่จะเพิ่มขึ้นนี้ได้
โดยราคาในตลาดตอนนี้ หน้าจอ Retina ขนาด 15.4 นิ้ว ที่มีความละเอียด 2880×1800 พิกเซล คิดเป็นจำนวนพิกเซลต่อพื้นที่ก็ได้อยู่ที่ 220 พิกเซลต่อนิ้ว (ppi) ราคาที่จำหน่ายอยู่ในตลาดตอนนี้ก็อยู่ที่ราวๆ $160 (5,xxx บาท) ซึ่งก็จะเพิ่มขึ้นมาอีกประมาณ $92 (2,8xx บาท) ต่อเครื่อง จากที่ราคาต้นทุนหน้าจอของเครื่อง MacBook Pro 15 นิ้วที่ใช้อยู่ในตอนนี้ตกอยู่ที่ $68 (2,1xx บาท) ส่วนเครื่องรุ่นเล็กอย่าง MacBook Pro 13 นั้น หน้าจอแบบ Retina Display ที่มีความละเอียดระดับ 2560×1600 นั้น จะมีราคาค่าตัวอยู่ที่ $134 (4,2xx บาท) ส่วนราคาต้นทุนเดิมที่ Apple ใช้อยู่นั้นก็จะอยู่ที่ $65 (2,xxx บาท) จะเพิ่มขึ้นมาอีก $69 (2,1xx บาท)
ส่วนเครื่องรุ่น 17 นิ้วที่มีข่าวออกมากมายหลากหลายกระแสว่าจะไม่มีการอัพเดทใหม่ จนไปถึงว่าจะเลิกผลิตแล้ว ถ้าจะทำหน้าจอ Retina Display ออกมาให้ ก็จะเป็นที่ความละเอียด 3840×2400 พิกเซล ไม่ต้องสงสัยเลยว่าราคาค่าตัวมันจะสูงสักระดับไหน ถ้าหากว่าใครเป็นแฟนเครื่องไซส์นี้อยู่ ก็คงจะต้องไปรอลุ้นเอากันในงาน WWDC นี้ ว่า Apple จะเอายังไงต่อกับเครื่องไซส์ 17
ซึ่งผู้ผลิตพาเนลหน้าจอ Retina Display นี้ แม้ว่าจะมีจำหน่ายในตลาดจากเหล่าผู้ผลิตมากมาย แต่กับลูกค้าที่จะสั่งซื้อเอาไปใช้ ก็ดูเหมือนจะมีแค่ Apple เท่านั้น เพราะว่าเครื่องจากยี่ห้ออื่นในตอนนี้ ยังแทบไม่มีใครใช้หน้าจอแบบนี้เลย
ก็คงต้องรอต่อไปว่า Apple จะจัดการกับปัญหาค่าตัว หรือต้นทุนของครื่องที่เพิ่มขึ้นมานี้ด้ววิธีการใด และคำตอบคงได้ทราบกันในงาน WWDC วันที่ 11 มิถุนายน นี้
ที่มา: MacRumors