คงจะปฏิเสธไม่ได้ว่าปีนี้คงจะกลายเป็นปีแห่ง Ultrabook แน่ๆ เนื่องด้วยภายในปีนี้จะมีการเปิดตัวอีกหลายสิบรุ่นจากหลากหลายแบรนด์ จึงน่าจะทำให้เกิดข้อสงสัยขึ้นมาในใจหลายๆคนว่า เอ๊ะ เราจะซื้อ Ultrabook มาใช้งานดีหรือไม่ มันเหมาะกับเราหรือเปล่า ในบทความนี้เราจึงจะมาดูกันครับว่า lifestyle แบบใดที่เหมาะกับการใช้งาน Ultrabook บ้าง
ถ้าคุณเป็นคนที่ต้องหิ้วคอมไปทำงานนอกสถานที่บ่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นการนำเสนองานต่อลูกค้า การแก้งานนอกสถานที่แบบสดๆ เชื่อว่า Ultrabook จะต้องเหมาะกับการทำงานของคุณแน่นอน เนื่องด้วยขนาด น้ำหนักที่เหมาะกับการพกพา แถมจอยังใหญ่กว่าบรรดา Netbook มากด้วย ทำให้สามารถใช้งานได้สบายกว่า Netbook ในทุกๆกรณี ทำให้ Ultrabook เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับคนที่ต้องออกไปทำงานนอกสถานที่บ่อยๆ หรือจะเป็นนักศึกษาที่ต้องการคอมซักเครื่องไปใช้ประกอบการเรียน เช่น เปิดสไลด์ตามที่กำลังเรียนอยู่ ก็น่าจะสะดวกดี เพราะในวันหนึ่งๆ ส่วนใหญ่จะใช้เวลาในการเรียนมากที่สุดราวๆ 5-6 ชั่วโมง ซึ่งแบตเตอรี่ของ Ultrabook ก็เพียงพอต่อการใช้งานแค่นั้นอย่างแน่นอน
2. ใช้งาน Ultrabook เป็นคอมเครื่องที่สอง เวลาไม่ได้อยู่หน้าเครื่องหลัก
ใครที่มีคอมเครื่องหลักเป็น Desktop PC อยู่แล้ว แล้วต้องการได้คอมซักเครื่องมาใช้งานแบบชิลๆ เช่นนั่งใช้งานบนโซฟาในห้องนั่งเล่น ก็อาจจะเหมาะกับการใช้งาน Ultrabook มากกว่า Notebook ตามปกติ เนื่องด้วยน้ำหนักที่เบา และแบตเตอรี่ที่สามารถใช้งานได้อย่างยาวนานกว่า Notebook ทั่วไป ซึ่งในส่วนนี้อาจจะไปทับกับความสามารถของ Tablet ก็เป็นได้
ดังนั้นผู้ใช้อาจจะต้องเลือกระหว่าง Ultrabook กับ Tablet ว่าอันไหนจะเหมาะกับตนกว่ากัน โดยตัว Tablet จะดีกว่าก็ตรงที่ราคาถูกกว่า รองรับการใช้งานระบบสัมผัส แต่ฝั่ง Ultrabook ก็มีข้อดีที่เหนือกว่าก็คือมันใช้งาน Windows ทำให้สามารถ sync ข้อมูลระหว่างคอมเครื่องใหญ่กับ Ultrabook ได้ง่ายกว่า แถมโปรแกรมที่ใช้งานต่างๆก็เป็นตัวเดียวกัน ทำให้สามารถยกงานมาทำใน Ultrabook ได้อย่างสบายๆ
กลุ่มนี้ก็คือผู้ใช้งานคอมทั่วๆไปที่ต้องการหาซื้อเครื่องพกพาซักเครื่องที่มีประสิทธิภาพดีๆ แล้วตนเองไม่ใช่คนเล่นเกมครับ ซึ่งน่าจะเหมาะกับการใช้งาน Ultrabook อยู่พอสมควร เนื่องด้วยประสิทธิภาพในการทำงานที่ค่อนข้างดีเมื่อมองว่ามันเป็นเครื่องที่ออกแบบมาให้มีขนาดบางเบา แต่คงจะไม่เหมาะกับคอเกมแน่ๆ เพราะการ์ดจอที่ใช้เป็นการ์ดจอในชิป CPU ของ Intel เองอย่าง Intel HD Graphics ที่อาจจะแรงไม่พอต่อการเล่นเกมนั่นเอง
ส่วน lifestyle ที่ไม่เหมาะกับการใช้งาน Ultrabook อย่างแรงเลยก็ได้แก่
- เล่นเกมเป็นชีวิตจิตใจ
- ใช้งานที่ต้องเน้นการประมวลผลหนักๆ เช่น การเรนเดอร์ต่างๆ
ทั้งนี้ก็เนื่องด้วยสเปกภายในของ Ultrabook ไม่ค่อยเหมาะกับการทำงานหนักเท่าไร ถึงแม้จะเป็น Intel Core i5 หรือ i7 ก็ตาม แต่มันก็เป็นรุ่นที่ปรับลดกำลังไฟในตัวลง ทำให้ประสิทธิภาพอาจจะลดลงจากรุ่นปกติเล็กน้อย (แต่อาจไม่มากนัก) ที่แน่ๆคือมันมาพร้อมกับการ์ดจอ Intel HD Graphics ซึ่งคงจะไม่ค่อยแรงพอสำหรับการเล่นเกมจริงจัง อีกทั้งบอดี้ที่เล็ก ทำให้การระบายความร้อนภายในเป็นไปได้ยากกว่าเครื่องที่บอดี้ใหญ่กว่า โปร่งกว่าอย่างบรรดาโน๊ตบุ๊คทั่วไป
ดูๆไปแล้ว Ultrabook นั้นก็เหมาะกับแทบทุก lifestyle เลยทีเดียว เรียกได้ว่าน่าจะสามารถเข้ามาแทนกลุ่มของโน๊ตบุ๊คทำงานทั่วๆไปได้อย่างไม่ยากนัก (ถ้าราคาต่ำกว่านี้) ดังนั้นช่วงนี้ใครอยากจะหาซื้อเครื่องมาไว้ใช้ทำงาน Ultrabook ก็ดูจะเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจอยู่ไม่น้อยเลยนะ