เกริ่นนำ
ในก่อนหน้านี้หลายท่านคนคงได้ชมรีวิวในส่วนของ MacBook Air 13 [Mid 2012] กันไปแล้ว หลังจากที่ทาง Apple ได้มีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ MacBook รุ่นใหม่ๆ อย่าง MacBook Air และ MacBook Pro ซึ่งหลักๆ ก็จะเป็นเรื่องของสเปกภายในที่เปลี่ยนไปให้มีความแรงขึ้นโดยใช้ชิปประมวลผลรุ่นล่าสุดอย่าง Intel Core i Gen 3 หรือที่เรานิยมเรียกกันว่า Ivy Bridge พร้อมทั้งติดตั้งพอร์ตความเร็วสูงอย่าง USB 3.0 เป็นครั้งแรก อีกทั้งถ้าเป็น MacBook Air 11, 13 และ MacBook Pro 13 ที่ใช้กราฟิกการ์ดแบบออนบอร์ดก็จะเปลี่ยนเป็น Intel HD4000 ทั้งหมด (เป็นกราฟิกการ์ดภายในส่วนของ Ivy Bridge อยู่แล้ว) และสำหรับ MacBook Pro 15 ก็จะเป็นกราฟิกการ์ดรุ่นล่าสุดจาก NVIDIA อย่าง GT 650M ที่มาพร้อมหน่วยความจำ DDR5 ขนาด 1GB ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมใหม่หมดจดอย่าง Kepler ที่ให้ประสิทธิภาพในด้านของการประมวลผลกราฟิกที่ดีกว่าเดิมมาก ส่วน MacBook Pro 17 นั้น ได้ยกเลิกการผลิตไปแล้ว จากการที่ยอดขายนั้นไม่ค่อยสู้ดีนัก (ซึ่งหลายคนที่จำเป็นต้องใช้งานขนาดหน้าจอ 17 นิ้ว ก็เสียดายอยู่)
เรียกได้ว่าเป็นการปรับราคาทั่วโลกพร้อมกันกับ MacBook Air, MacBook Pro, MacBook Pro?with Retina Display ที่เป็นโน้ตบุ๊กจากทาง Apple ที่เชื่อได้ว่าหลายๆ คนต้องตะลึงกับราคาใหม่อย่างแน่นอน เพราะลดลงไปหลายพันบาท รวมไปถึงบางรุ่นก็ลดราคาลงเป็นหมื่นบาท เรียกได้ว่าถ้าใครซื้อ MacBook มาก่อนหน้านี้ไม่กี่วันต้องเจ็บตัว (เจ็บใจ) อย่างแน่นอน T^T โดยการลดราคาครั้งนี้สามารถเข้าชมได้จากหน้า Apple Store Online Thailand?และในส่วนของตามร้าน iStudio ก็ทำการปรับเป็นรคานี้เรียบร้อยแล้วนะครับ
ความละเอียดของหน้าจอเป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่ผู้ใช้หลายๆ คนนำมาเป็นสิ่งที่ต้องคิดถึงเป็นอันดับต้นๆ เมื่อจะเลือกซื้อโน้ตบุ๊คเครื่องใหม่มาใช้งาน ซึ่งแน่นอน ในตลาดโน้ตบุ๊คตอนนี้ไม่มีใครเทียบ MacBook Pro with Retina Display ได้ ไม่ว่าจะเป็นจอขนาด 13 นิ้ว ที่ให้ความละเอียดสูงถึง 2,560 x 1600 พิกเซล หรือจะเป็นจอขนาด 15 นิ้ว ที่ 2,880 x 1800 พิกเซล พร้อมกับค่า Ratio ที่ 16:10 อีกด้วย ทว่าสำหรับบัลลังก์นี้จะถูกท้าชิงโดย Acer
หลังจากที่ Apple ได้ปล่อยเครื่องโน้ตบุ๊กหน้าจอความละเอียดพิเศษ MacBook Pro with Retina Display ออกมา ก็ทำให้หลายคนทึ่งไปกับความคมชัดขนาดใหญ่ของมัน แต่ว่ามันก็ยังมีปัญหาตามมา? นั่นก็คือยังไม่ใช่ทุกแอ็พฯ ที่จะทำการอัพเดทกราฟฟิกของตัวเอง ให้รองรับกับหน้าจอความละเอียดสูงนี้ และแอ็พฯที่มีการใช้งานอย่างมากมาย นั่นก็คือ Photoshop และ Illustrator จาก Adobe นั่นเอง ซึ่งก็ถือเป็นปัญหาอยู่พักนึงสำหรับผู้ใช้งานที่ได้ซื้อเครื่องรุ่นดังกล่าวมาใช้
เป็นอีกหนึ่งธรรมเนียมที่เมื่อมีสินค้า Apple รุ่นใหม่ออกวางจำหน่าย จะถูกทางเว็บไซต์ซื้อมาแกะเพื่อดูชิ้นส่วนภายในกันเสมอๆ ล่าสุดก็เป็นคราวของ MacBook Pro with Retina Display จอ 13 นิ้วกันบ้าง โดยส่วนที่น่าสนใจก็มีดังต่อไปนี้ครับ
เป็นอย่างไรกันบ้างครับ เชื่อว่าหลายๆ ท่านคงได้มีโอกาสชม?รายงานสดของ Specphone.com ที่รายงานการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ของ Apple ซึ่งพระเอกงานนี้ก็คงหนีไม่พ้น iPad Mini ที่มีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 329 เหรียญสหรัฐ หรือถ้าเข้าไทยราคาก็คงประมาณหมื่นบาทต้นๆ และการอัพเกรด The new iPad (iPad 3) เป็น iPad with Retina Display (iPad 4) จากการเปลี่ยนชิปประมวลผลเป็น A6X, Lightning Port, 4G และอีกหลายๆ ส่วน สำหรับรายละเอียดสรุป iPad Mini และ iPad 4 เข้าชมได้ทางนี้เลยครับ
ในช่วงหลังการวางจำหน่าย MacBook Pro with Retina Display แรกๆ ปรากฏว่าทาง EPEAT ไม่ได้ให้การรับรองมาตรฐาน EPEAT ที่บ่งชี้ถีงระดับความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมของตัวผลิตภัณฑ์ โดยเฉพาะด้านการรีไซเคิลชิ้นส่วนภายในเครื่อง สาเหตุก็เนื่องมาจากทาง Apple ไม่ต้องการให้มีการตรวจรับรองเอง โดยอ้างว่าตัวของ MacBook Pro with Retina Display (และเครื่องรุ่นใหม่ตัวอื่นๆ) ต่างผ่านการรับรองตามมาตรฐานที่สูงกว่านั้นมาหมดแล้ว แต่ในเวลาต่อมาทาง Apple ก็ต้องขอกลับเข้าสู่การตรวจสอบของ EPEAT อีกครั้งตามกระแสต่อต้านในสังคม
หนึ่งในผลิตภัณฑ์ของ Apple ที่หลายคนรอคอยอย่าง MacBook Pro 13 จอ Retina Display นั้น เรียกได้ว่าเป็นอีกสินค้าที่มีกระแสข่าวออกมาอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดมีข่าวลือว่า Apple อาจจะเลือกเปิดตัว MacBook Pro 13 จอ Retina Display ในงานเดียวกับการเปิดตัว iPad Mini ที่ในขณะนี้คาดการณ์กันว่าน่าจะเป็นวันที่ 23 ตุลาคมนี้ ซึ่งเป็นการรายงานจากแหล่งข่าวที่เป็นร้านขายสินค้าปลีกรายใหญ่รายหนึ่งในสหรัฐฯ ที่อ้างว่าทราบข้อมูลนี้มาระดับหนึ่ง
หนึ่งในซอฟต์แวร์ที่ผู้ใช้ MacBook Pro with Retina Display หลายคนรอการอัพเดตอยู่ก็คือ Adobe Photoshop CS6 และ Adobe Lightroom 4 ที่ทั้งสองยังไม่รองรับการทำงานบนจอความละเอียดสูงระดับ Retina Display อย่างเต็มตัว ซึ่งเรื่องนี้ Adobe ก็ทราบดี และล่าสุดได้ประกาศออกมาแล้วว่าจะส่งอัพเดตสำหรับซอฟต์แวร์ทั้งสองให้รองรับจอระดับ HiDPI (รวมถึง Retina Display) ในเดือนกันยายนนี้ ขอให้ผู้ที่ใช้งานอยู่ (โดยเฉพาะของแท้) อดใจรอกันอีกซักเล็กน้อย