หลายๆคนอาจจะเริ่มสับสนแล้วว่าสรุป คนที่ซื้อเครื่องซึ่งใช้ชิป Sandy Bridge ต้องทำอย่างไรต่อไป
จากข่าวเก่า
[ไขข้อข้องใจ] ปัญหาของ ชิปเซ็ต Sandy Bridge ที่มีปัญหา (ชาวโน๊ตบุ๊คสบายใจได้)
>>Link<<
- หลายๆท่านที่ซื้อโน๊ตบุ๊คหรือ PC ที่ใช้ชิปเซ็ต Sandy Bridge ไปแล้วจะทำอย่างไรบ้าง
PC
ตอนนี้ผู้จัดจำหน่ายหลายๆเจ้าเช่น JIB ก็เริ่มติดต่อไปยังลูกค้าที่ซื้อไปเพื่อให้เตรียมนำเมนบอร์ดมาเปลี่ยนได้ โดยที่ไม่ต้องส่งเคลมก่อน ของใหม่มาแล้วค่อยนำไปเปลี่ยน สำหรับลูกค้าจากดีเลอร์รายอื่นๆก็สามารถติดต่อขอเปลี่ยนได้นะครับ แต่จะเร็วหรือช้านั้นขึ้นอยู่กับผู้จัดจำหน่ายและผู้ผลิตอย่าง ASUS MSI Gigabyte ที่จะส่งรุ่นใหม่เข้ามาทดแทน (ซึ่งต้องรอ Intel ส่งชิปเซ็ตตัวใหม่มาอีก)
Notebook
ส่วนโน๊ตบุ๊คนั้นตอนนี้หน้าร้านที่จัดจำหน่ายไปตอนแรกก็ตามเก็บไปหมดแล้วทั้ง Lenovo และ Acer ส่วนผู้ที่ซื้อไปแล้วนั้นถ้าไม่พอใจอยากเปลียนตัวใหม่ก็สามารถทำได้นะครับ อย่างร้านผู้จัดจำหน่ายหลายรายเองก็สามารถเปลี่ยนเป็นรุ่นอื่นได้ สามารถติดต่อกับร้านที่ซื้อเพื่อเปลี่ยนได้ แต่ถ้ายังต้องการรุ่นเดิมที่เป็น Sandy Bridge อาจจะต้องรอให้ Intel ส่งชิปเซ็ตตัวใหม่ให้ผู้ผลิตเสียก่อนซึ่งจะใช้เวลา 1 ? 2 เดือนเลยทีเดียว ถ้าไม่ซีเรียด(เพราะอาการปัญหานี้ไม่ได้ส่งผลต่อเครื่องอยู่แล้ว) ก็สามารถรอจนโน๊ตบุ๊ค Sandy Bridge มาพร้อมแล้วค่อยเอาไปเปลี่ยนก็ได้ครับ ดีกว่าเอาไปเปลี่ยนตอนนี้แล้วอาจจะต้องรอเคลมเสียเวลาเปล่าๆ
- การแก้ไขปัญหาของแต่ละแบรนด์
เท่าที่ติดตามสถานะการณ์ตอนนี้มีแต่ Lenovo ที่ประกาศอย่างเป็นทางการว่าหยุดการจำหน่าย ส่วนเรื่องเปลี่ยนเครื่องนั้นก็สามารถทำได้แต่ต้องติดต่อกับร้านที่ซื้อมาเพื่อเปลี่ยนเป็นรุ่นหรือยี่ห้ออื่นที่เท่าเทียมกัน ของ Acer นั้นเท่าที่ทราบมาจะเรียกคืนเลย แต่ user จะได้แค่ใบเคลมรอรับเครื่องใหม่โดยไม่สามารถเปลี่ยนเป็นเครื่องอื่นแทนได้ (เป็นข่าวจาก user ที่ซื้อรุ่นนี้ไป) ส่วนแบรนด์อื่นๆนั้นยังไม่ได้จัดำหน่ายจึงไม่ค่อยได้ผลกระทบไปมากนัก เพียงแต่ทำให้กำหนดการวางตลาดของโน๊ตบุ๊ค Sandy Bridge เลื่อนออกไป
งานนี้ใครเสีย (ฝั่งโน๊ตบุ๊ค)
- Intel แน่นอนว่าการผลิตชิปเซ็ตออกมาไม่ได้มาตรฐานทำให้ Intel เสียหายไปเต็มๆ เท่าที่ต่างประเทศประเมินมาก็ราวๆ 1,000 USD (หรือ? 30,000 ล้านบาทเลยทีเดียว) ทั้งกระผลิตรุ่นใหม่ทดแทน การจ่ายเงินค่าเสียหายให้แต่ละแบรนด์ Intel ต้องรับผิดชอบหมด แต่ก็ยังดีที่ Intel ออกตัวก่อนที่ Sandy Bridge จะขายไปมากกว่านี้ทำให้ได้ใจของผู้ใช้และประหยัดค่าเสียหายไปได้เยอะเลย
- Acer เองก็ได้เริ่มจำหน่ายโน๊ตบุ๊ค Sandy Bridge ไปแล้ว แต่ก็ยังดีว่าเพิ่งจะจำหน่ายไปไม่นาน และยังมีร้านที่จำหน่ายไม่มาก ทำให้สามารถเรียกคืนได้เร็วจำนวนผู้ซื้อไปยังน้อย แม้จะมีรุ่นอื่นเรียมขายไว้แต่ก็ยังไม่มาก ทำให้สูญเงินไปไม่มากนัก
- Lenovo ในบ้านเรา Lenovo คงจะโดนหนักที่สุดเพราะจำหน่ายตัว Y460p ไปมากพอสมควร จึงจำเป็นต้องมาเรียกคืนจำนวนมากอีกทั้งเห็นว่ามีตัว Y560p และ V470 รอขายอยู่อีกสต๊อกมาที่ไทยแล้วแต่เมื่อเกิดปัญหาขึ้นทำให้ไม่สามารถจำหน่ายได้ต้องส่งคืนโรงงานสถานเดียว จึงเรียกได้ว่าเป็นแบรนด์ที่โดนหนักสุดในไทยเลย
- แบรนด์อื่นๆส่วนใหญ่ยังไม่ได้สั่งมาในไทยทำให้แทบไม่ได้รับผลกระทบเลย ยกเว้นแต่ทำให้ต้องชลอการจัดจำหน่ายโน๊ตบุ๊ค Sandy Bridge ออกไป
แล้วเมื่อไรละ
- เป็นคำถามที่หลายๆท่านอยากรู้ว่าแล้วเมื่อไรจะได้เห็นโน๊ตบุ๊ค Sandy Bridge ที่แก้ไขแล้ว คำตอบก็คงจะบอกได้ไม่แน่นอนนักเพราะต้องรอ intel แก้ไขปัญหาและส่งชิปไปให้ผู้ผลิต ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 1 เดือน ต่อมาผู้ผลิตก็นำชิปใหม่นี้ไปผลิต อย่างเร็วๆก็ใช้เวลาประมาณเดือนครึ่งเป็นอย่างเร็ว หรืออย่างชาก็ 2-3 เดือนเลยทีเดียว ถ้าถามว่าในงานคอมมาร์ทนี้ทันไหมค้อนข้างตอบได้เลยนะครับว่าเป็นไปได้ยากมากเต็มที่ก็แค่เครื่องโชว์เท่านั้น แต่ก็อาจจะพอมีลุ้นบ้างต้องรอดูใกล้ๆอีกทีครับ
แม้งานนี้อาจจะทำให้กระเทือนวงการ PC พอสมควร แต่การที่ Intel มายืดอกยอมรับตั้งแต่เนินๆทำให้สามารถจำกัดความเสียหายไปได้เยอะอีกทั้งซื้อใจ user ได้มาก (ดีกว่าการ์ดจอบางค่ายที่กว่าจะมายืดอกรับความเสียหายก็บานปลายไปมหาศาลแล้ว) ผู้ผลิตแต่ละแบรนด์เองก็พยายามเรียกคือนสินค้าโดนเร็ว เพื้อป้องกัน user นำสินค้าที่มีปัญหาไปใช้และยังเรียกสินค้าที่ขายไปแล้วคืนโดยไว แม้ user อาจจะไม่สะดวกบ้างแต่ก็สามารถยอมรับได้เพราะถือว่าเป็นการแก้ปัญหาที่ดีทีสุดแล้ว?