กลับมาพบกับพี่ๆน้องๆชาว NotebookSpec อีกครั้งนะครับ ครั้งนี้ผมมีโอกาสได้ทดลองใช้งาน iPad ซึ่งออกวางจำหน่ายที่สหรัฐไปเมื่อช่วงต้นเดือนเมษาฯที่ผ่านมานี้ จึงถึงโอกาสนี้พิมพ์บทความรีวิวสไตล์ผมให้เพื่อนๆพี่ๆน้องๆ ได้อ่านกันนะครับ ขอบคุณทีมงาน NBS มากครับ สำหรับเครื่องที่นำมาให้ทดลองใช้งานครับผม
แกะกล่อง
เมื่อแกะกล่อง iPad มาจะพบ iPhone ขนาดยักษ์ เอ้ย iPad นอนเด่นเป็นสง่าสวยงามอยู่ในกล่อง และเมื่อหยิบ iPad ออกมาก็จะพบกับอุปกรณ์เสริมที่แถมมาให้ ซึ่งมีสองอย่างคือสาย USB Dock Connector และ Wall Charge ปิดทับไว้ด้วยกล่องซึ่งบรรจุคู่มือการใช้งานมาให้ เป็นคู่มือที่บางมาก มันเป็นกระดาษแผ่นเดียว พร้อมข้อความบอกว่าที่เหลือให้ไปอ่านต่อในเว็บ … สำหรับหูฟังนั้น iPad ไม่ได้ให้หูฟังมาด้วย นอกเหนือจากสิ่งต่างๆข้างต้นแล้ว ก็เป็นสติกเกอร์โลโก Apple ตามระเบียบที่จะแถมมาให้กับทุกๆผลิตภัณฑ์ของ Apple ที่คุณซื้อ
เครื่องที่ผมทดลองใช้นี้ เป็น iPad ความจุ 32GB นะครับ โดยเป็นรุ่นที่มี Wi-Fi อย่างเดียว (ตอนนี้รุ่น 3G ยังไม่ออกวางตลาด) โดยมาพร้อมกับ iPhone OS 3.2
General Settings
หน้าจอ
iPad นั้นเป็นอุปกรณ์พกพา ที่มีขนาดหน้าจออยู่ที่ 9.7 นิ้ว จอภาพเป็น LED backlight เรื่องความสดก็สดใช้ได้เลยครับ แล้วก็เป็นจอ IPS ดังนั้นจึงสามารถมองจากมุมเอียงๆข้างๆได้ ทำให้มีมุมมองที่กว้าง แสดงผลที่ความละเอียด 1024×768 จุด คิดเป็น 132 จุดต่อนิ้ว ทำให้แต่ภาพหนึ่งจุดใน iPad นั้นมีขนาดใหญ่กว่า 1 จุดใน iPhone ที่มีจุดแสดงผลต่อนิ้วอยู่ที่ 163 จุด
สำหรับสัดส่วนจอภาพนั้นเป็นแบบ 4:3 ถ้ามีการเล่นวีดีโอ ที่เป็น 16:9 หรือยาวกว่า ก็จะเป็นแถบดำบนล่างเกิดขึ้น หากขยายให้เต็มหน้าจอ ก็จะมีการตัดขอบข้างออก แบบเดียวกับที่เป็นใน iPhone และ iPod touch ถึงตรงนี้บางท่านอาจจะคิดว่า iPad มีความละเอียดทางแกนตั้งของจอตั้ง 768 งี้ก็ดูหนัง HD ได้เต็มๆสิ จริงอยู่ครับหน่วยประมวลผลของ iPad เล่นไฟล์หนัง HD ได้ แต่สำหรับการแสดงผลความละเอียดจอทางแกนนอนมันแค่ 1024 ในขณะที่หนัง HD แบบ 720p นั้นอยู่ที่ 1280 จุด ดังนั้นเวลาเราดูหนัง HD มันก็จะย่อมาให้แสดงผลที่ 1024×576 ครับ แต่ถ้าจะดูแบบไม่ย่อ มันก็จะตัดขอบซ้ายขวาไปนั่นเอง
ด้านหลัง
สำหรับการดูหนังแบบ SD นั้นเมื่อเล่นในจอที่ใหญ่ขึ้นอย่างจอ iPad มันจะมองเห็นบางจุดที่มันบีบอัดมาได้ ไม่คมชัดเท่าแบบ HD ดังนั้นถ้านำไฟล์หนังเก่าๆที่เคยแปลงไว้สำหรับ iPhone มาเล่นก็จะไม่คมชัดนัก
และถ้าท่านคิดว่าจะใช้ iPad เล่นหนัง HD แล้วต่อออกจอภายนอกละก็ต้องบอกว่าเสียใจด้วยครับ เพราะสาย AV Component และ Composite ของ Apple นั้นรองรับแค่ 480i และ 576i ซึ่งเป็นมาตรฐาน SD เท่านั้น สำหรับคุณสมบัติทางเทคนิคอื่นๆ หาอ่านได้จากเว็บไซต์ของ Apple นะครับ ( http://www.apple.com/ipad/specs/ )
หน้าจอ iPad มีการเคลือบป้องกันรอยนิ้วมือ แบบเดียวกับที่มีใน iPhone 3GS แต่ถึงจะอย่างนั้นก็เถอะครับ การใช้ไปนานๆจะมีรอยนิ้วมือปรากฎอยู่เป็นหย่อมๆ อยู่ดี แต่ก็สามารถเช็ดถูออกได้นะ แต่บางทีก็น่ารำคาญอยู่เหมือนกัน
ตัวเครื่อง
ตัวเครื่องใช้เทคโนโลยีการผลิตแบบ Unibody เหมือนกับ MacBook Pro แต่ด้วยความที่เครื่องมันไม่มีอะไรซับซ้อนมาก ก็ไม่ได้รู้สึกถึงความเป็น Unibody เท่าไหร่นัก ตัวเครื่องมีความแข็งแรงทนทานจับได้เต็มที่ ตามขอบเครื่องนี่ไม่มีความคมบาดให้รู้สึกเลยซักจุด สามารถเอามือลูบไล้ได้ทั้งเครื่องแบบเต็มๆเลย การออกแบบนั้น จะว่าไปมันเหมือนเป็นลูกผสมระหว่าง iPhone รุ่นแรก และ iPhone รุ่นหลังๆอยู่นะ ที่เหมือน iPhone รุ่นแรกคือมีฝาหลังเป็นอลูมิเนียม ส่วนที่เหมือน iPhone รุ่นหลังๆ คือมีการออกแบบที่มีความเว้าที่ช่วงปลายขอบ
พอร์ตต่างๆ
ข้างเครื่องจะมีปุ่มให้ Lock การพลิกเครื่อง จำไม่ได้แล้วว่าปุ่มนี้เปลี่ยนมาจากปุ่มอะไรใน iPhone แต่ถือว่า Apple ตัดสินใจได้ถูกต้องมากเลย เพราะการใช้งาน iPad เวลานอนกลิ้งไปกลิ้งมานี่ถ้าไม่ Lock การพลิกเครื่องไว้นี่รำคาญเอาได้ง่ายๆ เพราะมันจะพลิกไปพลิกมาได้ค่อนข้างไวมาก