สวัสดีครับ ผม Vampires 101 วันนี้มีข้อคิดดี ๆ จะมาบอกและก็คิดว่าท่านคงเจอมากับตัวเองเช่นกัน เลยถือโอกาสแนะนำสิ่งดี ๆ เกี่ยวกับการซื้อโน๊ตบุ๊คหรือของใช้ทั่วไปให้ท่านได้ทราบกัน โดยสิ่งแรกที่ท่านไม่สามารถหลีกเลี่ยงมันได้ คือ
Vat 7%
นั้นก็คือท่านจะต้องเสียภาษีมูลค่า หรือเรียกอีกอย่างว่า Vat ซึ่งประเทศไทยได้กำหนดว่าจะต้องคิดภาษีมูลค่าเพิ่มร้อยละ 7 ต่อราคานั้น ๆ แต่ก็มีผู้ประกอบการบางส่วนที่ขายสินค้าและไม่คิด Vat กับลูกค้า ซึ่งพ่อค้าแม่ค้าทั่วไปจะเรียกว่า อม Vat ครับ เพราะเหตุนี้จึงทำให้ร้านค้าทั่วไปแข่งขันกัน ในด้านราคากันมาก บางร้านบอกว่า Free Vat บางร้านคิดว่า Vat ไม่เต็มราคา อย่างเช่น ราคา 25900 ไม่รวม Vat แต่ร้านค้าคิด Vat แค่ 800 บาทเหอะ ๆ ทำให้ลูกค้าที่กำลังตัดสินใจซื้อโน้ตบุกก็ตกเป็นจำเลยกับร้านนั้น ทำให้ร้านที่คิด Vat 7% เต็มจริงขายของไม่ออก หรือ อาจจะปล่อยของได้ช้ากว่าเห็นมาจากร้านที่ถูกไม่ของให้ขาย ร้านที่ขายของได้ช้าก็เลยได้รับประโยชน์ทางด้านนี้ไป
การชำระสินค้าด้วยเงินสดดีอย่างไร
พูดตามหลักการคนที่มีเงินเย็นนั้นถือว่าเลยทีเดียวไม่ต้องเสียดอกเบี้ย ไม่ต้องมีภาระผูกพัน ไม่ต้องมีใครมาตามท้วงหนี้เช้าเย็น แต่การชำระเงินสดนั้นท่านคงไม่รู้หรอกว่าร้านค้าที่ท่านซื้อนั้นชอบมากกว่าการรูดบัตรเครดิตสักอีก เพราะจะทำให้ร้านเห็นตัวเงินเร็วไม่ต้องรอให้ ธนาคารโอนเงินมา และอีกอย่างมันก็ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมต่างตามข้อกำหนดของธนาคาร ซึ่งสังเกตได้ว่าจะมีของแถม ๆ เพิ่มขี้นมาอีกอย่าง 2 อย่าง
การชำระสินค้าด้วยบัตรเครดิตดีอย่างไร
ข้อดีของบัตรเครดิตเนี่ยผมคงไม่ต้องบอกหรอกนะว่าดีอย่างไร แต่ผมจะบอกเคล็ดของผู้ประกอบการของร้านให้ฟัง โดยปกติทั่วถ้าท่านไปซื้อของตาม โลตัส คาร์ฟู หรือ ชุเปอร์มาร์เก็ตต่างๆ เวลาที่ท่านชำระด้วยบัตรเครดิต ท่านจะไม่เสียค่าธรรมเนียมที่ ธนาคารมันจะเรียกเก็บกับร้านค้า แต่บางครั้งผมว่าท่านก็ต้องเคยเจอเช่นกันพอท่านจ่ายเงินด้วยบัตรเครดิตมันจะบอกว่าบวกค่าธรรมเนียม 2% – 3% จริง ๆ แล้วภาระนี้ไม่ได้เป็นของลูกค้าเลย มันเป็นภาระของร้านค้ามากกว่า เพราะอะไรรู้ไหม แค่เราโดนธนาคารคิดดอกเบี้ย 20% ต่อปีแล้วยังพอต้องเสียค่าธรรมเนียมของบัตรรายปีอีก มันยังมาเรียกเก็บกับเรา ซึ่งจึงจริง ๆ มันไม่ควรทำ แต่ผมพึ่งได้ทราบเหตุผลของร้านค้าเหล่านี้มาว่าทำไมถึงคิดค่าธรรมเนียมกับลูกค้า สาเหตุมาจากการลดราคาเยอะทำให้ได้กำไรน้อย ซึ่งถ้าเจอแบบนี้นะ เป็นผมใช้เงินสดซื้อคุ้มกว่ากันเยอะครับ ยกตัวอย่าง ผมพึ่งถอยโทรศัพท์มาใหม่ราคาของเครื่องที่เช็คมา 9,250 บาท แต่ถ้าจ่ายด้วยบัตรเครดิตไม่คิดค่าธรรมเนียม แต่ผมไปเจอมาอีกร้านรุ่นเดียวกันแต่ร้านมันขายแค่ 9,000 แต่ถ้าจ่ายด้วยบัตรเครดิตจะต้องคิดค่าธรรมเนียม 3% ซึ่งลองเอาไปคิดดูซิครับ ว่าจริงแล้วได้มาเท่าไหร่ 9,270 บาทเห็นมั้ยว่าแพงกว่าอีกร้าน แต่ถ้าท่านจ่ายเงินสดล่ะท่านจะได้ของที่ถูกว่าแน่นอน ถึงบอกว่าการใช้บัตรเครดิตเนี่ย นิด ๆ หน่อยเราก็ต้องคิดนะครับ อย่าเห็นว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย ท่านเพียงคิดแต่รูดๆไปเหอะ ได้ของมาก็ดีใจแล้ว แต่ท่านไม่รู้หรอกว่า ดอกเบี้ยกำลังรอท่านอยู่ ผมขอยกตัวอย่างอีก 1 เรื่องครับ เวลาที่คุณเติมน้ำมันแล้วจ่ายด้วยบัตรเครดิตให้กับปั๊มบางครั้งมันก็ไม่อยากรับเพราะอะไรรู้ไหมครับเพราะทำให้มันได้กำไรน้อยมากครับ แต่ถ้าท่านจ่ายด้วยเงินสด จะได้รับมาม่า แถมให้ฟรีอีก 2 ซองเลยล่ะครับ ลองคิดดูนะครับสมมุติว่าผมเติมน้ำมันเต็มถังในราคา 2,200 บาทจ่ายด้วยบัตรเครดิตแต่ไม่เสียค่าธรรมเนียมซึ่งผู้ประกอบการของปั๊มจะเป็นผู้จัดการส่วนนั้นเองจะทำให้มันได้กำไรน้อยครับ มาดูวิธีการคำนวณ 2,200 หารด้วย 1.07 เท่ากับ 2,057 บาท แต่ถ้าท่านจ่ายด้วยเงินสดล่ะโห้เจ้าของปั๊มนั่งยิ้มเลย เหอะ ๆ ๆ กำไรเต็ม ๆ
ของแถมไม่เอาได้ไหม ลดราคาได้ไหม
ของแถมที่ท่านได้มาจริง ๆ แล้วเป็นเงินไม่ถึง 200 บาท อันนี้เป็นเรื่องจริง ซึ่งท่านเคยคิดไหมว่าบอกกับร้านว่าไม่เอาของแถมแต่ขอลดราคา ซึ่งเรื่องนี้ผมก็ตอบไม่ได้เช่นกัน มันขึ้นกับนโยบายของร้านเค้าว่าสามารถทำได้ไหมแต่เชื่อผมเถอะครับว่าเอาของแถมดีกว่า เพราะอะไรรู้ไหม สมมุติว่าไม่เอาของแถมแต่วันหลังท่านไปเดินซื้อเอง จะได้ราคาที่แพงกว่าแน่นอนครับ
ทุกวันนี้ผมใช้จ่ายอย่างประหยัดและคิดคำนวณทุกครั้ง เพราะสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เรามองข้ามไปมันก็เป็นเรื่องที่คาดไม่ถึงเช่นกัน ฉะนั้นอย่างมองว่าสิ่งที่ผมพูดไปนั้นไม่ใช่เรื่องจริงเป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นทั้งนั้น เพียงแต่อยากจะบอกว่าให้ท่านเข้าใจเท่านั้น เชื่อได้ว่าบางคนยังไม่รู้เลยว่าค่าธรรมเนียมตอนที่ใช้บัตรเครดิตนั้น ทำไมจะต้องเก็บเพิ่ม ผมจึงให้บทความนี้เป็นเพียงข้อคิดเท่านั้นครับ หวังว่าคงจะเป็นประโยชน์สำหรับงาน Commart Comtech 2009 ที่ใกล้เข้ามานี้นะครับ ขอบคุณครับ โอกาสหน้าเจอกันใหม่
By : Vampires 101